แม่โบว์ แวนด้า ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อ น้องมะลิ ถามทำไมหนูไม่มีพ่อ

บันเทิง

งานนี้ทำเอาถึงกับจุกอกกันไปเลยสำหรับคนเป็นแม่ไม่รู้จะบอกลูกยังไง สำหรับ โบว์ แวนด้า สหวงษ์ ที่พักหลังๆมา น้องมะลิ ลูกสาวผู้ถึงคุณพ่อ ปอ ทฤษฎี ตลอดเลย ไม่นานโบว์ได้อัดคลิปทันในช่วงที่น้องมะลิพูดออกมาว่า “ทำไมหนูไม่มีพ่อ” งานนี้ทำเอาแม่โบว์ถึงกับพูดไม่ออก เมื่อไปเจอ โบว์ แวนด้า ในงานนักข่าวก็เข้าไปสัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ทันที

เห็นคลิปล่าสุดที่มะลิถามถึงพ่อ หลายคนเห็นก็สะเทือนใจ ?

“ช่วงนี้ถามทุกวันค่ะ วันนั้นที่โบว์อัดคลิปที่เขาพูด คือกำลังสตาร์ทรถไปส่งเขาที่โรงเรียน เขาก็บ่นข้างหลังอยู่คนเดียว โบว์ก็ถามว่ามะลิพูดอะไร พอเขาเริ่มพูด โบว์เลยหยิบโทรศัพท์มาแอบถ่ายเขา เขาก็บอกว่า “ทำไมหนูไม่มีพ่อ” คือเขาเพิ่งกลับมาจากบุรีรัมย์ แล้วก็ไปอยู่กับครอบครัวของน้องชายพี่ปอ เขาก็จะซึมซับอยู่กันทุกวัน ด้วยความสงสัยของเด็ก

เขาก็บอกว่าหนูอยากเป็นแบบปลาวาฬที่มีอาป๊อบกับอาเบนซ์ นั่งรถไปก็มีอาป๊อบขับรถ มีอาเบนซ์นั่งข้างหน้า ปลาวาฬนั่งข้างหลัง หนูก็อยากให้พ่อมาขับรถคันนี้ แล้วให้แม่นั่งข้างๆ แล้วหนูก็อยู่ข้างหลัง แล้วเราก็ขับไปเที่ยวกัน

เราก็บอกว่าหนูก็มี แต่หนูยังเจอพ่อไม่ได้ ตอนนั้นเราก็จุก เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับลูก แล้วเขาก็บอกว่าหนูอยากให้พ่อกลับมาจริงๆ แล้วก็คิดว่าอีก 1-2 เดือนโบว์จะบอกแล้วค่ะ จริงๆ โบว์กะว่าจะรอให้เขาสัก 6 ขวบ แต่โบว์ว่าไม่เอาดีกว่าอยากให้เขาได้ซึมซับกับการเรียนรู้ความจริงตั้งแต่เด็ก เพราะโตไปมากกว่านี้ก็กลัวว่าเขาโตแล้วก็เริ่มรับรู้ความรู้สึกทุกอย่าง แล้วพอรู้จริงๆ เขาจะเสียในหนักมากกว่านี้”

วางแผนที่จะสื่อสารกับน้องยังไง?

“ก็พยายามบอกเขาก่อนว่าพ่อหนูเป็นใคร คุณพ่อทำอะไรไว้บ้าง และวินาทีสุดท้ายเราก็ยังได้อยู่กับคุณพ่อ โบว์ว่ามนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ต้องเรียนรู้อะไรแบบนี้กับความรู้สึกสูญเสีย แต่อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วแค่นั้น โบว์มองข้ามสเต็ปไปค่ะ คือมะลิน่ะเสียใจอยู่แล้ว แต่สิ่งที่โบว์ให้ความสำคัญก็คือหลังจากที่มะลิเสียใจ โบว์ต้องทำยังไงกับลูกบ้าง จะทำให้ลูกหายเสียใจยังไง

ทุกวันนี้โบว์ก็จะพยายามบอกลูกว่าถ้าคุณพ่อไม่อยู่ แล้วคิดถึงก็ให้ยิ้ม อย่าหัวเราะ เพราะถ้าหนูหัวเราะพ่อก็จะรู้สึกไม่ดี แล้วคุณพ่อก็สอนให้แม่ยิ้มตลอด คือไม่อยากให้เขาเสัยใจ แต่โบว์มั่นใจว่าด้วยความเป็นมะลิทุกวันนี้ โบว์มั่นใจว่าเขารับได้และเขาต้องผ่านได้ค่ะ”

ถามถึงซีรีส์คลับฟรายเดย์ คิดนานไหมกว่าจะตัดสินใจเล่นละครเรื่องแรก ?

” ตัดสินใจไม่นานค่ะ พอเห็นบทละครก็รับเลย แต่ที่คิดนานและหนักใจก็คือตัวเองจะทำได้ไหม แค่นั้นเอง (ยิ้ม)”

ได้เข้าฉากหรือยัง?

“ยังๆ เพิ่งมาเจอพี่เอส พี่ฉอดวันนี้ค่ะ กับนักแสดงทุกๆท่านก็ตื่นเต้น (ยิ้ม)”

ต้องกลับไปเตรียมพร้อมขนาดไหน?

“ไม่มรู้เลย รู้แต่ว่าพกความมั่นใจกับความพยายามแค่นั้นค่ะ”

บทใกล้ตัวหรือไกลตัวขนาดไหน?

“ไกลตัว และหนักหน่วงมากเลย (หัวเราะ) มาก็โดนทั้งข่มขืนเอยอะไรเอย (หัวเราะ) คือติดเชื้อเอชไอวีด้วย และโดนเพื่อนร่วมงานทำมิดีมิร้ายด้วย ส่วนใหญ่ก็เศร้าหมด ก็จะพยายามค่ะ”

หนักใจเรื่องร้องไห้ไหม ?

“เอาจริงๆ ถ้าประเมินตัวเองนะคะ ร้องไห้ดีกว่าหัวเราะ (หัวเราะ) เพราะโบว์ว่าร้องไห้ดีกว่าหัวเราะนะ โบว์คิดว่านะ”

ต้องเข้าครอสเรียนการแสดงไหม?

“เดี๋ยวจะเริ่มเรียนนี่แหละค่ะ พี่ฉอดกับพี่เอสก็มั่นใจว่าเราทำได้ ทั้งๆ ที่ตัวเรายังไม่มีความมั่นใจในตัวเองแต่ว่าคนอื่นมั่นใจว่าเราทำได้ เราก็ต้องทำให้ได้”

คนรอบข้างว่ายังไง ?

” จะกลับไปบอกนี่แหละค่ะ ไม่เคยบอกคนรอบข้างเลย ก็ตื่นเต้น กลัวบอกไปแล้วเขาเหลี่ยนตัวขึ้นมาเดี๋ยวหน้าแตก ก็เดี๋ยววันนี้จะกลับไปบอกทุกคนค่ะว่าจะได้เล่นซีรีส์คลับฟรายเดย์ เพราะเป็นซีรีส์ที่เราติดตามมาตั้งแต่แรก และพอวันหนึ่งเราได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในซีรีส์ที่เราชอบดู ก็ดีใจมาก (ยิ้ม)”

ถ้าติดใจจะรับยาวเลยไหม?

“หูย ต้องดูก่อนค่ะ (หัวเราะ) เหมือนตอนนี้เราก้าวขาไปข้างหนึ่ง พอเราได้เรียนรู้ในสิ่งที่เรากลัว แต่เราก็อยากทำ ก็มุ่งมั่นตั้งใจ แต่ผลที่ออกมามันจะโดนคำติชมหรือว่าโดนคำด่า หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องประเมินตัวเองว่าเราได้ไหม ถ้าไม่ได้เราก็ซักขากลับมาอยู่จุดเดิมของเราค่ะ แต่ถ้าเราได้ก็พร้อมที่จะเดินต่อไปได้”

ถ้ามาเล่นละคร การดูแลมะลิต้องปรับยังไงบ้าง ?

“จริงๆ น้องก็โชคดีที่ในหมู่บ้านเราช่วยกันดูแลน้อง วันไหนที่่โบว์ไปทำงานก็จะมีพี่ปู พี่ยุ และคนระแวกนั้นช่วยดูแลอยู่แล้ว แต่ถ้าช่วงไหนมีงานหนักๆ ก็จะเป็นคุณปู่คุณย่าลงมาดู หรือปิดเทอมมะลิก็จะไปอยู่บุรีรัมย์เลย”

พร้อมจะรับเสียงวิจารณ์ขนาดไหน ?

“จริงๆที่ผ่านมามันก็มีหนักมากมาแล้ว (หัวเราะ) ก็พอจะทำให้เราเข้มแข็งมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนฟิลตรงที่ว่า วิจารณ์ในเรื่องของผลงานก็ต้องยอมรับให้ได้ค่ะ ถ้าเราคิดว่าเราจะเล่นเราก็ต้องยอมรับทั้งคำติชมและหลายๆ อย่าง เพราะโบว์เชื่อว่าคำติชมจะเป็นการบ้านให้เราได้ทำ ได้ตอบโจทย์แต่เรื่องคำด่า เราก็ปล่อยผ่าน เราไม่สนใจคำด่า”

ตอนรับรู้สึกยังไงที่ต้องเล่นประกบ โอม อัชชา ด้วย ?

“ตอนรับก็คิดว่าจะให้ไปเป็นแม่หรืออะไร เพราะไม่คิดเลยว่าอายุใกล้จะ 40 แล้วจะได้มาเป็นนักแสดงนำในเรื่อง เพราะพี่ปูบอกว่าไม่นะแม่ ได้เล่นกับคุณโอม เราก็บอกว่าจริงเหรอ ก็รีบดูบทเลย คือไม่น่าเชื่อ ก็รับเลยค่ะ (ยิ้ม)”

ได้บอกปอไหม?

“พอรับโทรศัพท์เสร็จก็เดินไปที่รูปพี่ปอเลย แล้วก็บอกว่า ปอ โบว์จะทำให้ได้ โอกาสมาในชีวิตแล้ว ก็จะพยายามทำทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตให้เต็มที่ที่สุด เพราะว่าพอไม่มีพี่ปอ ชีวิตโบว์ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง อะไรที่มาแบบไม่คาดฝัน เราก็ผ่านมันมาได้แล้ว และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราจะผ่านให้ได้ด้วยความตั้งใจและความพยายามของเรา”

ตอนพี่ปออยู่เขาเคยเล่าถึงเทคนิคในการแสดงให้ฟังไหม?

“ไม่เคยเลย (ยิ้ม) พอกลับบ้านจะไม่พูดถึงเรื่องการทำงาน เราก็จะอยู่ในโหมดแม่บ้าน ก็คือให้เขาหายเหนื่อย เราจะไม่พูดว่าเขาทำอะไรยังไงมาบ้าง เขาก็ไม่ได้มาเล่าอะไร”

ฝากผลงานหน่อย?

“ก็ฝากผลงานการแสดงของโบว์เรื่องแรกด้วยนะคะ อาจจะติดขัดไม่ถูกใจก็ติชมกันได้เลย แต่ก็จะพยายามเล่นให้เต็มที่ที่สุดค่ะ” เป็นกำลังใจให้โบว์ค่ะ อยากเห็นผลงานแล้วนะ

ขอบคุณข้อมูล:vanda29

เรียบเรียงโดย:setup999

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น