คำสอนเตือนใจ คนชอบอวด ใช้ชีวิตอย่างคนรวยจะมีแต่จนลง หากอยู่อย่างคนจนจะรวย

ข่าวทั่วไป

ต้องบอกเลยว่าเป็นคำสอนที่ดีมากๆเลยทีเดียวของ เซียนแปะโรงสี โดยเพจผี ได้นำมาเผยว่า ” คำสอนแป๊ะโรงสีลื้อเคยเห็นมั้ยเมื่อตอนที่นกยังมีชีวิตอยู่ มันจะกินหนอนเป็นอาหารแต่เมื่อมันตาย..มันก็จะ ถูกหนอนกินเป็นอาหารเหมือนกัน ต้นไม้หนึ่งต้นนั้นสามารถ ทำเป็นไม้ขีดไฟได้มากมาย

แต่ไม้ขีดไฟเพียงหนึ่งก้านก็สามารถเผาต้นไม้ได้มากมายเช่นกันลื้ออย่ามองข้ามคนที่ด้อยกว่า เพราะหลงตัวเองว่ายิ่งใหญ่กว่า อย่ามองข้ามลูกค้ารายเล็กๆ ไม่เห็นคุณค่าของพวกเขา เพราะสักวันหนึ่งเขาอาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเราก็เป็นได้ พวกดูถูกคนพวกนี้มีเยอะแยะให้เห็นในโลกใบนี้

จงจำไว้คนรวยนั้นหลายคนไม่ได้รวยมาแต่กำเหนิดทุกคน ลื้ออยากเป็นเศรษฐีจงจำประโยคนี้ไว้ให้ขึ้นใจลื้ออย่ามัวคิดว่าเราแข็งแรงไม่มีวันป่วยเพราะอายุยังน้อย “โลงศพไม่ได้มีไว้ใส่คนแก่แต่มีไว้ใส่คนตาย จงจำไว้”ลื้ออย่ามัวคิดว่าฉันรวยใช้เงินได้อย่างฟุ่มเฟือยสักวันเงินเพียงร้อยบาทอาจมีค่ามากมายในวันตกอับก็ได้ขอเตือนสติทุกคนว่า

ลื้อจงจำไว้ให้ดีไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิตใหญ่ได้ก็เล็กได้ รวยได้ก็จนได้ แข็งแรงได้ก็ป่วยได้ เกิดได้ลื้อก็ต้องตายได้เช่นกัน ทุกคนไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า จงจำคำอั๊วให้ขึ้นใจเทียน กัว สื่อ ฮก โหงว ลี่ ขอฟ้าประทานพรให้ลูกหลานพ้นจากปัญหา สมดั่งปราถนา ไม่ขัด ร่ำรวยๆ ”

และในขณะเดียวกันเพจดังกล่าวก็ยังได้บอกประวัติของ เซียนแปะโรงสี ไว้ว่า” เซียนแป๊ะโรงสี หรือ อาจารย์โง้วกิมโคย เดิมทีชื่อกิมเคย แซ่โง้ว เป็นชาวจีนที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เมื่อประมาณอายุ 22 ปี ได้สมรสกับนาง นวลศรี เอี่ยมเข่ง มีบุตรด้วยกัน 10 คน อาแปะประกอบอาชีพค้าขายข้าวเปลือก

และได้ตั้งโรงสีชื่อว่า โรงสีไฟทองศิริ ที่ปากคลองเชียงรากเยื้อง ๆ กับวัดศาลเจ้าและได้โอนสัญชาติจากจีนเป็นไทย รวมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทองศิริ กิจการโรงสีของอาแปะมั่นคงมากขึ้น ทำให้เป็นที่รู้จักกันในนามว่า “แปะกิมเคย”ท่านเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้เป็นที่เคารพของคนทั่วไปโดยเฉพาะในกลุ่มของพ่อค้าแม่ค้า

และเป็นที่เล่าต่อกันมาว่าแป๊ะโรงสีนั้นมีองค์ของพ่อปู่ศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าอีกด้วย โดยในงานประจำปีท่านจะจุดธูปเพื่อปัดเป่าลมฝน ซึ่งฝนก็จะไม่ตกและท้องฟ้าก็ดูแจ่มใสอีกเช่นกัน อาแปะได้ทำการบูรณะศาลเจ้าในยามที่การคมนาคมลำบาก แต่ท่านก็ไม่ละความพยายาม จนทำสำเร็จ นอกจากการบูรณะศาลเจ้าแล้ว

เซียนแปะโรงสียังเป็นผู้กำหนดวันจัดงานประจำปีของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าเป็นวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1 ถึงวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 1 รวม 4 วัน 4 คืน ซึ่งทางชาวจีนเรียกช่วงนี้ว่า “เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป้ย” และได้ถือเป็นประเพณีตลอดมาจนถึงปัจจุบันอีกทั้งท่านเก่งเรื่องดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ยต่าง ๆ ในการตั้งบริษัทหรือบ้าน

โดยคนที่ให้ท่านชี้แนะกลับไปต่างก็ประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้า บรรดาผู้คนทั้งจากในไทยและต่างประเทศต่างพากันมาหาท่าเพื่อขอคำชี้แนะเรื่องทำเลที่ตั้ง ฮวงจุ้ยของบริษัทห้างร้าน จึงเป็นที่มาว่าทำไมผู้คนต่างนับถือเซียนแป๊ะโรงสีผู้นี้ อาแปะโรงสีได้เสียชีวิตในปี 2526 แต่ชื่อเสียงก็ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ”

ขอบคุณข้อมูล:เพจผี