ชาวเน็ตชม แอนนี่ บรู๊ค นี่สิ แม่เลี้ยงเดี่ยวตัวจริง

บันเทิง

เรียกได้ว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรองอีกหนึ่งคน สำหรับสาว แอนนี่ บรู๊ค ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวนั้นเจอมรสุมชีวิตมาหนักมากๆ เพราะเจ้าตัวนั้นต้องดูแลแม่ที่ป่วยและเลี้ยงลูกชายเพียงลำพัง แต่เจ้าตัวก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างมาได้

ล่าสุด แอนนี่ก็ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์เรื่องโรงเรียนของ น้องฑีฆายุ โดยได้ระบุข้อความว่า “แบ่งประสบการณ์ จากอินเตอร์สู่สามัญ ด้วยพิษเศรษฐกิจที่ทุกวงการ ทุกอาชีพระส่ำระสาย หาเงินฝืดเคืองเรียกว่าหืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว แต่สำหรับแอน แอนว่าตัวเองเป็นคนไม่อยู่เฉยและมองหาช่องทางทำมาหากินอยู่ตลอดเวลา ถึงช่วงที่หาเงินยากก็จะพยายาม หาให้ได้เพื่อลูก… ตอนเล็กนั้นฑีเรียนอนุบาล เทอมนึง ก็หลายอยู่

เพราะโรงเรียนใกล้บ้านที่บางนา ของผู้ใหญ่ที่ช่วยดูแลน้องเวลาที่แอนทำงาน ค่าเทอมถือว่าอยู่ในระดับกลางถึงแพง แต่ด้วยวัยตอนนั้นแค่33 ยังไหวต่องานหนัก จึงไม่มีปันหา….. วันคืนผ่านไป เด็กชายขึ้น ป.1ด้วยความที่เห็นลูกเก่งภาษาและตัวน้องขอเรียนโรงเรียนที่มีฝรั่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ออกจากปากน้องจริงๆ…..เราจึงเดินทางต่างประเทศอีกครั้งเพื่อหาเงินทุนในการเรียน

ใช้เงิน หลายแสนในการเริ่มต้นและยังมีค่าเทอมต่อๆมาทุกเทอม แต่น้องใฝ่เรียนและคะแนนเต็มเกือบทุกวิชาจึงยอมให้น้องเรียน… อันว่าโรงเรียนอินเตอร์นั้นดี ตรงที่เด็กอิสระ เรียนๆเล่นๆ มีทุกอย่างในการเรียนต่อสัปดาห์ พ่อแม่แทบไม่ต้องหาเรียนพิเศษ ไม่ต้องเจอสอบ โอเนทเอเนทอะไรมากมาย หรือสอบเข้าโรงเรียนให้เครียด จะเข้าก็เข้าเลย จ่ายตังค์ จบ❗ เด็กก็คุยกันภาษาอังกฤษซะส่วนมาก (ได้ความอินเตอร์ไปเต็มๆ)

ซึ่งเป็นส่วนแข็งของโรงเรียนอินเตอร์  แต่ อย่าลืม สังคมแบบนี้ย่อมแลกมาด้วยกิจกรรมที่แสนแพง ❗ เทศกาล ไทย+เทศแต่ละปี อย่างเยอะบางทีหาเสื้อผ้ากันแทบไม่ทัน น้อยหน้ากันก็ไม่ได้ เป็นการสร้างค่านิยมหัวสูงให้ลูกโดยเราไม่รู้ตัว❗ พอป2 ผ่านไป ค่าใช้จ่ายมีแต่เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น.. ประกอบกับ น้องเริ่มโตและเริ่มอยากอยู่ใกล้แม่มากยิ่งขึ้น……… นั่งมองเงินในบัญชี กับ พิจารณาค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน แต่ละปีผ่านไป ทุกเหตุผลบวกกัน

จนเราต้องทิ้งงานทิ้งเงินที่ว่าหาได้ง่าย (#ถึงหาง่ายแต่ถ้ายังต้องจ่ายค่าเทอมและชีวิตที่แสนแพงก็ไม่เหลืออยู่ดี)เพื่อลดอัตราชีวิตลง แต่ได้อยู่ใกล้ชิดและดูแลลูกมากขึ้น ตอนนี้ก็ไม่ได้มีหรือร่ำรวยและยังคงหางานทำอยู่ตลอดแต่มุมมองก็เปลี่ยนไปคือต้องหางานที่เราดูแลลูกได้และเซฟค่าใช้จ่ายทุกอย่างลงด้วยในจุดนี้ จึงมองหาโรงเรียนใหม่ซึ่งไม่ง่ายเลย ใครเป็นพ่อแม่ย่อมรู้ดี และเปลี่ยนจากอินเตอร์มาธรรมดามันต้องเข้ากลางเทอม!

ต้องหาโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนที่รองรับเด็กเข้ากลางเทอมแบบนี้ โชคดีที่ไถ่ถามเพื่อนๆพี่ๆได้ข่าวจึงลองไปดูเห็นชอบเลยให้เรียนเลย ตอนแรกกลัวมาก เพราะน้องไม่เอาเลยนั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่เอา แต่สุดท้ายเราให้เหตุผลที่ดี บอกความจริงถึงสถานการณ์ในชีวิต ทุกอย่าง พอไปหลายวันเข้าและปรับชีวิตกันอยู่พักหนึ่งเรื่องดีๆในการเข้าเรียนก็ตามมา …… ที่สำคัญ ค่าเทอมไม่แพงมาก กิจกรรมไม่เยอะมาก ไม่ต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ และความเฮี้ยบของครูไทยดีกว่าอินเตอร์ตรงที่ อัตราการแกล้งกันแรงๆมีน้อย

>น้องเคยเล่าว่าอยู่โรงเรียนเก่าโดยจับกดน้ำในสระว่ายน้ำ , โดนมัดอยู่ในถุงดำแทบหายใจไม่ออก,โดนดินสอแทงเลือดอาบกลับบ้านทุกวันนี้ไส้ดินสอยังปักคาหลังอยู่เลย เพราะความอินเตอร์มันอิสระมากเกิน(บางที่) แต่ที่นี่ไม่มีเรื่องแบบนี้กวนใจ(มีนิดหน่อยตามประสาเด็กๆแต่ไม่รุนแรงมาก)  อาหารกลางวันมีให้ทาน ไม่เสียเงิน ทุกวันนี้ มีความสุขตามอัตราที่มีที่เป็นอยู่ มีบ้างที่หนักๆ จนท้อแต่ก็ไม่ถอย มีตัวเองและลูกเป็นกำลังใจมาตลอด

และส่วนตัวเอง ตัดขาด สิ่งฟุ่มเฟือยทั้งหมด ไม่เที่ยวไม่ซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์ และยังคอยมองหาช่องทางในการทำมาหากินและคอยไถ่ถามไอเดียใหม่ๆจากคนรอบข้างอยู่เสมอ  บางที การลดการไต่ระดับลง ลดอัตราลง เราอาจจะพบกับความสุขมากกว่าเดิมก็เป็นได้  สิ่งที่ต้องทำคือ “หยุด” ทบทวน.อะไรบ้างที่มันเกินไปกับชีวิตก็ให้ลดลง อะไรที่ขาดหายก็ให้เติม แล้วชีวิต …#ไม่ต้องดีพอสำหรับใครหรอก แต่พอดีกับตัวเองให้มีชีวิตต่อไปได้ก็พอ💕✌ ทุกอย่างแก้ได้ ยังไม่สายเกินไป ซึ่งงานนี้บรรดาชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเมนต์ชมสาวแอนนี่กันเพียบเลยจ้า

ขอบคุณข้อมูล:แอนนี่ ฑีฆายุ

เรียบเรียงโดย:setup999