ดี้ นิติพงษ์ โพสต์ยาวเหยียดเล่าความหลังถึง ตั้ว ศรัณยู

บันเทิง

ทำเอาครอบครัวและคนในวงการบันเทิงเศร้าเสียใจกันหนักมากกับการจากไปของพระเอกหนุ่มในตำนาน และผู้กำกับมากฝีมือ ตั้ง ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ซึ่ง ตั้ว เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา โดยกำหนดการงานศพของ ตั้ว นั้นก็ตั้งอยู่ที่ วัดนาคปรก ศาลาเศรษฐี ซ.เทอดไท 49 ภาษีเจริญ สำหรับกำหนดการพิธีสวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 11-17 มิ.ย. 63 เวลา 18.30 น. สวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 18 มิ.ย. 63 เวลา 17.00 น. ฌาปนกิจ

ล่าสุด ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค ได้ออกมาเผยบทความที่ไม่ค่อยมีใครทราบมาก่อน ระบุว่า ” ไปหาตั้วที่วัดนาคปรกมาจ้ะ..วัดนี้ เป็นวัดประจำตระกูลของตั้วเลยก็ว่าได้ บ้านพ่อแม่ตั้วอยู่ติดกับวัดเลย..พ่อแม่ตั้วมีบ้านว่างอยู่อีกหลังหนึ่ง…สมัยเรียนถาปัด ตั้วอยู่ที่บ้านนี้ไม่ใช่สิ…ตั้วกับเพื่อนถาปัดจำนวนหนึ่ง อยู่บ้านนี้ช่วงนั้นก็ไม่ใช่ปีหนึ่งนะ…

ปีสามปีสี่ด้วยซ้ำ..บ้านไม้สองชั้นเล็กๆ มีสองห้องคือ ห้องข้างบน กับห้องข้างล่าง เป็นบ้านที่ไม่ควรอยู่เกินสามคน…พวกเราสามารถอยู่ด้วยกันหกเจ็ดคนได้…พร้อมกับโต๊ะเขียนแบบคนละตัว…นอนตรงไหน…แล้วแต่อยู่กันอย่างเขรอะ ทำโปรเจคส่งอาจารย์บ้าง คุยเรื่องเขียนบทละครบ้าง ร้องรำทำเพลงบ้าง….

แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปนอนแม่ตั้วจะหุงข้าวต้มมาให้กินบ่อยๆ เพราะกลัวลูกกับเพื่อนๆ เป็นโรคขาดสารอาหาร…เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมักจะเป็นอาหารหลัก ค่ำๆ ก็จิบแม่โขงโทนิคกัน…วันไหนมีตังค์เยอะหน่อยก็ลงขัน…จิบแสงโสมทำงานไป พร่ำเพ้อละเมอพก ดื่มด่ำเมรัยยามราตรี จนเกือบเช้า…ก็แยกย้ายไปสุมหัวนอน…

แยกย้าย(ยังไงวะ ห้องเดียวนั่นแหละ…)ก่อนนอน…มีเพื่อนบางคนปวดเยี่ยว แล้วขี้เกียจลงมาเข้าส้วมข้างล่าง มันก็เยี่ยวตรงระเบียงบนบ้านดุจสายฝนอุบาทว์ ตกลงไปที่พื้นเบื้องล่างอันเป็นทางสัญจรเข้าออกของผู้คน รวมทั้งพระคุณเจ้า..ซึ่งกำลังจะออกมาบิณฑบาตร ในเวลาอันเกือบจะเดียวกันนั้น…ตั้วเห็นก็ตาเหลือก

ตะโกนลั่น…“เฮ้ย ไอ้เชี่ย มึง ลงไปเยี่ยวข้างล่างสิโว้ย…นั่นมันลงไปทางเดิน เดี๋ยวพระก็จะออกไปบิณฑบาตรแล้ว…”“กูเมาว่ะตั้ว…กูลงกระไดไม่ไหว…”เราเขรอะกันอย่างไม่น่าเชื่อ…เพื่อนคนหนึ่ง ตื่นก่อน อาบน้ำเสร็จแล้วหยิบกางเกงในฉันที่ตากอยู่ไปใส่เฉยเลย…พอฉันลืมตาขึ้นมาเห็น ก็ร้องเฮ้ย….มันด่ากลับหน้าตาเฉย..“เฮ้ย…อะไรวะ

ของแค่นี้หวงไปได้…”ล้อมวงกินข้าวต้มที่แม่ตั้วต้มมาให้กิน…มีไอ้เพื่อนตัวร้ายเลวทรามต่ำช้าคนนึง มันคะนอง…มันดึงขนในที่ลับ…เอาใส่ชามข้าวต้มเพื่อนทุกคน!!!! อ้วกกกก…“…ไอ้…..มึงทำอะไรของมึง…”“…หมี่กรอบไง…หมี่กรอบ…”กว่าจะรอกันใช้ห้องน้ำ อาบน้ำมั่ง ไม่อาบมั่ง…ก็แล้วแต่…ก็จะพากันเดินงัวเงียเป็นขบวนออกไปปากซอย…เป็นอู่ต้นสายรถเมล์สาย 4 ตลาดพลู-คลองเตย

ซึ่งโชคดีที่เป็นสายที่ผ่านจุฬาพอดี..เราเป็นนิสิต..ก็ต้องไปเรียนสิเราจะไม่พูดคุยกันทั้งสิ้น ต่างกับกลางคืนโดยสิ้นเชิง…ต่างคนแยกย้ายไปนั่งริมหน้าต่าง…ไม่นั่งด้วยกันก่อนรถจะออกจากอู่…เราก็หลับกันโดยพร้อมเพรียงริมหน้าต่างไม่ต้องหวาดกลัวต้องลุกให้เด็กสตรีคนชราอะไรใดๆทั้งสิ้นเพราะเก้าอี้รถเมล์สมัยนั้นเป็นแบบนั่งคู่หมด

…ปลอดภัยความปลอดภัยเริ่มสั่นคลอน….เมื่อรถเมล์มาถึงป้ายจุฬา…แถว ๆ สามย่านทีนี้ก็แล้วแต่ใครตื่นหรือไม่ตื่น..ตอนรถถึงป้ายนั้น…และเราก็ตกลงกันไว้ก่อนแล้วว่า…ตัวใครตัวมันนะเว้ยจะมีเพื่อนบางคน…ที่ไปตื่นที่อู่คลองเตยเสมอ…ตั้วไม่เคยพลาด..พร้อมเพื่อนที่รอดมาได้…ก็จะลงป้ายแล้วเดินเข้าประตูจุฬาด้านพาณิชย์บัญชีด้านทิศใต้สุด….

เพื่อจะเดินผ่าจุฬาฯ ไปยังคณะถาปัดที่อยู่ด้านทิศเหนือสุด…เพื่อนๆ ที่เดินอยู่ท้ายกลุ่ม จะได้ยินเสียงสาว ๆ จุฬา แอบกระซิบกัน…“นี่ๆๆ…นี่ไงเธอ…ศรัณยู..”“ใช่เหรอ…”“ใช่ๆๆ…เอ๊..รึเปล่า..”“ไม่ใช่มั้ง…หูย..เดินผ่านที กลิ่นเหมือนขนมปังหืน…”ฯลฯ…………สี่สิบปีมาแล้ว…ไม่น่าเชื่อว่าภาพยังชัดมาก…#นินทาตั้ว#ตั้วไม่ต้องมาแก้ต่างอะไรนะ#ว้าวุ่นเวอร์ชั่นวัดนาคปรก#ปินดาโพสยะมันไม่เขียนกูเขียนเอง#คิดถึงมึงนะตั้ว ”

ขอบคุณข้อมูล : Nitipong Honark