ตงตง ยอมรับเป็นคนเจ้าชู้ พร้อมเผยสาเหตุ หวานน้อยลง

บันเทิง

เรียกได้ว่าก่อนหน้านี้ เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ได้ออกมาเปิดใจถึงแฟนหนุ่มอย่าง ตงตง กฤษกร ว่าถ้าใครมีหลักฐานว่าแฟนของตนเจ้าชู้ให้ส่งมา และถ้าพบว่าเป็นเรื่องจริงก็จะเลิก ล่าสุดทางด้านของตงตงได้ให้สัมภาษณ์ว่า เข้าใจในสิ่งที่ฝ่ายหญิง ซึ่งตนยอมรับเป็นคนเจ้าชู้ แต่ตอนนี้หยุดแล้ว

จากประเด็นที่เบสท์พูดในรายการหนึ่ง บอกว่าถ้าตงตงเจ้าชู้จะออกมาจัดการเองเลย?

“คือแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ผมก็ต้องเคารพการตัดสินใจของน้อง คือเบสท์เขาชัดเจน ด้วยความที่เขาเป็น YouTuber คือจะให้ผมทำยังไง คือผมแทบจะไม่ได้ดูโซเชียล ก็ได้ดูไฮไลต์บ้างแต่ไม่ได้ดูเต็มๆเพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้ฟังมันก็รู้สึกเป็นธรรมชาติของน้อง แต่ผมก็เข้าใจผู้หญิงนะ เขาก็จะทำตามความรู้สึกของเขา เราก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามได้”

แล้วจริงๆเราเป็นคนเจ้าชู้เหรอ?

“ผมจะบอกทุกคนเสมอนะว่า ผมเป็นคนเจ้าชู้ ผมยอมรับ กับเบสท์ผมก็ยอมรับมาตั้งแต่ตอนแรกเลย พูดกับแม่เขาด้วยว่าผมเป็นคนเจ้าชู้นะ แต่เวลาที่ผมเจอแล้วผมก็จะรู้ว่าควรทำอะไร”

ก็คือพอมีแฟนแล้วก็จะไม่นอกลู่นอกทางแน่นอน?

“ไม่มีครับ ไม่มีจนถึงสองปีแล้วอ่ะน่าจะสองปีแล้วก็อยากจะมีแต่ความสุข แล้วผมมาทำงานถือว่าผ่านมา 5-6 ปี แล้ว ผมก็ไม่อยากให้มันมีอุปสรรคเรื่องอื่นๆเข้ามา อยากจะมีความสุขกว่า”

ที่หยุดเจ้าชู้เพราะว่าเบสท์เขาเป็นคนดุด้วยหรือเปล่า?

“ผมไม่ได้หยุดเพราะว่าเบสท์เป็นคนดุ แต่ผมหยุดเพราะว่าเบสท์เขาเป็นคนดี สิ่งหนึ่งที่เขาดี ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่กตัญญู แล้วก็เก่ง ตั้งใจในการทำงานแล้วก็ดูแลครอบครัว แล้วเขามาด้วยความจริงใจ”

เขาเป็นคนหวงไหม?

“ผมว่าผู้หญิงทุกคนก็หวงแหละ เบสท์เองก็หวง เพราะฉะนั้นผมจะทำอะไรได้ก็นอกจากแค่ไม่มากระทบกับงานเราแค่นั้นก็พอ บางคนก็จะบอกว่าผมไปเล่นกับคนนั้นคนนี้ แต่ผมอยากจะให้เข้าใจว่าคือผมอยู่ในอาชีพการงานของผม ผมจะทำยังไงได้ ผมก็ต้องเล่นกับคนอื่น”

เบสท์เขาก็เข้าใจใช่ไหม?

“คือค่อนข้างเข้าใจครับ”

ก่อนจะหยุดเจ้าชู้อยู่ที่เบสท์ คบกันแรกๆเคยมีปัญหาอะไรพวกนี้ไหม?

“คือเบสท์บอกว่า ถ้าเจ้าชู้ก็คือจะไม่เอา เขาพูดตรงๆ เขาเป็นคนชัดเจน”

แล้วเราสร้างความเชื่อใจให้เขายังไง?

“ก็ในแต่ละวันถ่ายละครเสร็จก็เจอกัน ก็วนลูปอยู่แบบนี้”

2ปีนี้ยังมีอะไรที่จะต้องปรับจูนกันอีกไหม?

“มีครับ มันไม่ใช่แค่2ปีหรอก 4ปี 5ปี หรือ 10ปี ยังไงมันก็ต้องปรับจูนกันเพราะว่ามันยังไม่ถึงขั้นจะต้องมีครอบครัวขนาดนั้น ผมว่าผมเองก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย เบสท์เองก็ต้องอยากเรียนรู้อะไรอีกมากมาย มันก็ต้องปรับจูนกันอีกเรื่อยๆ แล้วมันก็ต้องมีบ้างที่ทะเลาะกันไม่เข้าใจกันมันก็ต้องปรับจูนกัน มันไม่มีใครหรอกที่จะคบกันแล้วเข้าใจกันเลย 100 เปอร์เซ็นต์ มันก็จะต้องมีอุปสรรคหลายๆอย่างเข้ามา”

แล้วเรื่องอะไรที่ส่วนใหญ่มันไม่เข้าใจกัน?

“ก็จะเป็นเรื่องของการขี้งอน มันก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่บางครั้งถ้ามันเยอะไปมันก็ต้องมีการพูดคุยกันบ้าง มันจะต้องลดลงได้ไหม มันประมาณนี้ได้ไหม”

แต่ภาพที่ออกมาหลักๆคู่เราจะไปทางสวีตกันมากกว่า?

“ใช่หลักๆคนที่ดูเรา เขาก็จะอยากดูแต่สิ่งที่มันมีความสุขเวลาที่ทะเลาะกันเราก็คงไม่ได้ถ่าย เพราะว่าสุดท้ายแล้วผมว่าเรื่องที่ทะเลาะกันมันก็เป็นสิ่งที่ผมกับเบสท์อาจจะต้องมาคุยกันปรับความเข้าใจกันแล้วก็ตัดสินใจกันว่ายังไง

เพราะฉะนั้นผมก็อยากจะให้เคารพในการตัดสินใจของผม แต่ผมก็เข้าใจนะว่ามีคนรัก ทุกคนก็จะคาดหวังให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ว่าความรักครั้งนี้ของผม

ผมไม่สามารถที่จะทำตามในสิ่งที่ทุกคนคาดหวังได้เพราะฉะนั้นมันก็คงไม่ได้เรียกว่าความรักของผมกับเบสท์ผมก็เลยอยากจะให้เคารพในการตัดสินใจของผมกับเบสท์

บางคนก็จะมองว่าเอ๊ะ..ทำไมมันไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย ทำไมไม่มีโมเมนต์หวานๆเหมือนเมื่อก่อนเลย คือผมจะบอกเสมอว่า เมื่อก่อนมันอยู่ในช่วงที่เป็นสถานการณ์โควิดแล้วผมกับเบสท์ก็เลยมีเวลาในการที่ใช้ชีวิต

ได้ถ่ายคลิปให้ทุกคนได้เห็นเยอะพอสมควร แต่พอตอนนี้สถานการณ์มันดีขึ้นมาแล้วผมเองก็มีงานเข้ามา ไหนจะละครสองเรื่อง เบสท์เองก็มีละครด้วย ไหนจะถ่าย YouTube ด้วย เวลาที่เจอกันมันก็น้อยลง โมเมนต์หวานๆมันก็เลยอาจจะไม่มีให้ เหมือนเมื่อก่อน”

ความคาดหวังของคนมันกดดันเรามากน้อยแค่ไหน?

“สุดท้ายคู่เรากดดันไหม มันก็ไม่ได้กดดันขนาดนั้นครับเพราะว่าสุดท้ายแล้วผมก็ไม่สามารถทำตามความคาดหวังหรือทำตามความต้องการของใครได้ ก็ต้องขอโทษไว้ด้วย

แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือรักกัน แล้วก็มีแต่ความสุขเท่านั้นเอง แม้จะถ่ายโมเมนต์หวานๆน้อยหน่อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าผมก็ต้องทำงานด้วย แต่อยากจะให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้มากกว่า คือผมดีใจนะ

ผมไม่เคยโกรธใครเลยด้วยซ้ำที่เข้ามาเป็นแฟนคลับ ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ มากดดันผม ผมก็ไม่เคยโกรธผมเข้าใจด้วยซ้ำ แต่ว่าอยากให้เป็นกำลังใจให้เรามากกว่า ทั้งในเรื่องของการทำงานแล้วก็ในเรื่องของความรักด้วย”

ไม่กดดันใช่ไหม เพราะว่าเราในอยู่ในจุดที่สว่างยังไงคนก็จับตามอง?

“ไม่กดดันขนาดนั้นครับ เพราะว่าไม่ว่าใครจะเมนต์ยังไง ไม่ว่าใครจะว่ายังไงก็ตาม ผมเชื่อว่าความต้องการของเขาก็คือความรักความหวังดีของเขา แต่ละคนก็หวังดีไม่เหมือนกัน

เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถที่จะไปห้ามเขาได้ ความคิดเขาเป็นยังไงเราห้ามเขาไม่ได้ แต่สิ่งที่เราจะทำได้นั้นก็อยากให้เข้าใจผมด้วยเข้าใจเบสท์ด้วย ผมยังมองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าใครจะเมนต์อะไรก็ตามมันคือความรักและความหวังดี”