เพื่อนๆ ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยคุณเคยรู้สึกเหนื่อยบ้างไหม กับการกดดันต่างๆ ทั้งการทำงาน และการเรียน ชีวิตอะไรก้แล้วแต่ จนทำให้ารู้สึกท้ออยากจะทิ้งความฝันกลางทาง ด้วยคำว่าฉันเหนื่อยเหลือเกิน แต่มอหน้าพ่อแม่คนที่เรารักและรู้สึกมีพลังลุกขึ้นต่อ
หากใครที่ต้องแบกรับภาระบางอย่าง ช่วยเหลือที่บ้าน อยากให้ลองอ่านเรื่องราวต่อไปนี้ดู เผื่อมีกำลังใจมากขึ้น เพราะคนที่เขาลำบากกว่าเรา ยังมีอีกเยอะมากๆ เลย ในปัจจุบัน เศรษฐกิจมีความฝืดเคืองมากขึ้น ทำให้ความเลื่อมล้ำทางบานะมีมากยิ่งขึ้นในสังคมเรา คนรวยก็รวยไปเลย
ส่วนคนจนก็แทบไม่มีจะกิน เด็กๆ ไม่ได้มีหน้าที่เรียนเพียงอย่างเดียว หลายๆ ครอบครัวลูกๆ ต้องออกมาทำาน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ สำหรับใครที่โตกว่าคนอื่นหน่อยก็จะต้องมาช่วยทำกิจการทางครอบครัว หรือแม้แต่ออกไปรับจ้างเพื่อหาเงินเข้าบ้าน ยิ่งไปกว่านั้นน้องๆ บ้างคนไม่มีโอกาสได้เรียนด้วยซ้ำ
เนื่องจากฐานะทางครอบครัวไม่เอื้ออำนวยต่อการศึกษาเล่าเรียน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความประทับใจในหมู่ผู้ใช้งาน โซเชียลมีเดีย อย่างเป็นจำนวนมาก หลังได้มีการเปืดเผยเรื่องราวจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ได้เล่าเรื่องราวของน้องแหลมหนุ่มน้อยยอดกตัญญูผู้ไม่ย่อท้อ
ต่อความยากลำบากแม้จะต้องแบกมันสำปะหลังวันละ 1000 กิโลกรัมเพื่อหารายได้มาดูแลคนในครอบครัวมากถึง 9 ชีวิต น้องแหลม มงคล มูลบุญ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของ รร.บ้านบุสูง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี น้องแหลม เป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวด้วยคุณพ่อของน้องแหลมมีอายุ 73 ปี ส่วนคุณแม่มีอายุ 59 ปี
ทั้งสองยังคงทำงานสานหญ้าคา ถักแห สารลอบ เพื่อนำเงินที่ได้มาจุนเจือภายในครอบครัว โดยพ่อแม่ของน้องแหลมได้เปิดเผยว่า ไม่อยากเป็นภาระของลูกหลานและบรรดาพี่ๆ น้องๆ ก็ล้วนแต่มีภาระไม่ต่างกันมากนัก น้องแหลมรู้ตัวเองดีว่าเขาสามารถช่วยดูแลคนในครอบครัวได้
น้องแหลมจึงเริ่มต้นทำงานตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1ออกไปรับจ้างแบกมันสำปะหลังบ่าของน้องแหลมต้องรับน้ำหนักมากถึง 40-50 กิโลกรัม ต่อเที่ยววันละหลายสิบเข่งถึงงานจะหนักแต่ก็รู้ว่านี่คือทางรอดของคนในครอบครัวแม้ชีวิตจะไม่ได้สวยหรูแต่น้องแหลมก็พร้อมที่จะทำให้คนในครอบครัวอยู่ดีกินดี
เรียบเรียงโดย:setup999
