บิณฑ์ เปิดใจ หลังโดนทัวร์ลงหนัก

บันเทิง

กลายเป็นดราม่าใหญ่กันเลยทีเดียวค่ะ สำหรับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ออกมาพูดถึงผู้ชุมนุมทำนองว่าถ้าเห็นชูนิ้วจะเข้าไปตบ แล้วเจอดราม่าจน บิณฑ์ ต้องขอลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู อีกทั้งยังมีการนัดหมายให้ประชาชนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองและสีชมพู ที่บริเวณลานหน้าวัดพระแก้วในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 นี้ด้วย แต่ก็อย่างที่ทราบว่า บิณฑ์ นั้นตั้งแต่ออกมาแสดงจุดยืนก็โดนทัวร์ลงสนั่นเลยทีเดียว

ล่าสุด(28ตุลาคม2563) บิณฑ์ ได้ไลฟ์สดเปิดใจถึงเรื่องที่ตนเองโดนทัวร์ลงว่า วันนี้โชคดีของผมมากเลยครับ ทัวร์ลงเต็มเชียว ทำไมการที่ผมออกมาปกป้องสถาบันมันเป็นเรื่องความผิดร้ายแรงมากเลยหรอครับ คนเข้ามาโจมตีผม เข้ามาด่าผม ผมไม่เข้าใจ ผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่เทิดทูนพระมหากษัตริย์

และคงไม่ใช่ผมคนเดียว พี่น้องประชาชนอีกหลาย 10 ล้านคน ผมไม่ได้ไปปลุกระดมคนอะไรเลย นี่ผมออกมาเพื่อปกป้องสถาบันมันผิดหรอครับ โอ้โหขุดคุ้ยสารพัดเรื่องแม้แต่เรื่องส่วนตัว ผมไม่โกรธหรอกแต่ผมเพียงจะถามจิตใจพวกคุณนิดหนึ่งว่าทำไมครับ มันเป็นอะไรนักหนา เข้ามาด่าเข้ามาว่าใครมาสนับสนุนเชียร์ผม

ถ้าจะโกรธผมที่จะตบคนที่ชูนิ้วกลางนิ้วเดียวนั้น ผมไม่ว่าโกรธผมได้ แต่ถามคุณกลับว่าถ้าคุณอยู่ในเหตุการณ์ ณ ตอนนั้น คุณก็ต้องทำอย่างผม ก็ต้องโมโหอย่างผม แล้วผมถามจริงๆผมจะตบหรอ นิสัยอย่างผมจะไปอย่างนั้นหรอ แต่เพียงแค่โมโหเพราะว่าผมไม่เคยเห็นภาพอย่างนั้น

ภาพที่ขบวนเสด็จผ่านมา แล้วยกนิ้วกลางให้ ผมโมโห ณ ตรงนั้น แต่คุณไปบิดหาว่าผมจะไปตบเด็กชู 3 นิ้ว มันไม่ใช่ครับ ผมบอกแล้วว่าน้องๆจะทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามันอยู่ในกรอบ อยู่ภายใต้กฎหมายของบ้านเมือง น้องจะชู 3 นิ้ว เพื่ออนาคตของน้อง เพื่อจะไล่รัฐบาล เพื่อจะปฏิรูปรัฐธรรมนูญ น้องทำไปเลย

พี่สนับสนุน อย่าเอาความโยงเข้ามาร่วมกับเด็กเลยนะครับ ณ ตอนนี้มันก็เริ่มที่จะบานปลายออกไป แต่ด้วยความจริงใจต่อพี่น้องชาวไทย ไม่ว่าทุกคนจะเป็นใครทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง ผมไม่เคยใจ แต่ ณ ตอนนี้ภาพที่ผมเห็นเอารูปพระบรมฉายาลักษณ์ไปทำเสียหาย ทั้งด่าทอ อันนี้ผมทนไม่ได้นะครับ

แล้วต่อไปนี้ผมพยายามจะตั้งสติ ถ้าผมเห็นคนทำอย่างนี้ผมจะไม่เข้าไปยุ่ง ผมปล่อยให้เป็นเวรกรรม ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นนะครับ ผมขอก้าวเดินตามที่ผมตั้งใจเพียงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยใจจริงของผม ผมอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนที่ยังรักในหลวงออกมาช่วยกัน ร่วมกัน

ไม่ว่าจะเป็นดารา นักร้องอาชีพไหนก็แล้วแต่ คุณไม่ต้องกลัวครับคุณทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครจ้างคุณเล่น ณ ตอนนี้แล้วเราต้องชัดเจนครับ เราไม่ได้ฝักใฝ่การเมือง เราไม่ได้เลือกสีใดสีหนึ่ง ผมต้องการให้สีเหลืองเป็นสีที่บริสุทธิ์ แล้วเสื้อสีชมพูเป็นสีที่ผมรู้สึกว่ามองแล้วสบายตาสบายใจ เป็นสีที่อ่อนหวาน พอเถอะครับตอนนี้บ้านเมืองเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ผมอยากให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่คู่กับคนไทย

ขอขอบคุณ : บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์

เรียบเรียงโดย : setup999

kan