ป้า นั่งขายของจากตู้ปันสุข พูดความจริงแล้ว

ข่าวทั่วไป

เป็นเรื่องราวดราม่าก่อนหน้านี้ค่าาา สำหรับกรณีที่สาวท่านหนึ่งออกมาโพสต์เฟซบุ๊คหลังไปเจอ คุณป้าท่านหนึ่ง นำของมาขายซึ่งเห็นข้างกล่องว่า หยิบตามจำนวนที่พอเหมาะ สาวคนนี้เลยรู้ว่าเป็นของจากตู้บริจาคหรือตู้ปันสุขที่ได้รับความสนใจอยู่ในตอนนี้

ซึ่งเธอก็เผยแคปชั่นประมาณว่า …….ณ ตลาดแห่งหนึ่ง จ. ปทุมธานี … ข้างกล่องนมยังมีเขียนอยู่เลยว่า ” หยิบตามจำนวนที่พอเหมาะ ” รู้เลยว่าเอามาจาก “ตู้ปันสุข ” มันไม่ผิดกฎหมายนะป้า แต่มันผิดต่อจริยธรรมหว่ะ ป้าอาจจะเดือดร้อนจริง แต่ป้าควรจะมีวิธีอื่นทำมาหากินมั้ย

งานนี้ก็เกิดการวิจาณณ์สนั่นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ล่าสุด เพจดังอย่างแหม่มโพธิ์ดำก็ได้ออกมาอัพเดทแล้วว่า เจอตัวคุณป้าท่านนี้แล้ว ซึ่งคุณป้าบอกเลยว่า……. ตัวเองไม่ได้ไปเอาของจากตู้บริจาคมาขาย แต่รับซื้อมาจากคนเรร่อนที่ที่อยู่แถวสถานีรถไฟหัวลำโพงมาขายต่ออีกทีจะว่ายังไงไปอ่านกันเลยค่ะ

เจอป้าแล้วค่ะ! จากกรณีที่มีผู้แชร์ภาพป้าคนหนึ่งนำนม-บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ได้จาก “ตู้ปันสุข” มาขายต่อที่ตลาดนัดมือสองย่านรังสิต จ.ปทุมธานี โดยบริเวณข้างกล่องนมยังถูกเขียนว่า “เอาคนละกล่อง” อีกด้วย ล่าสุดทีมข่าวได้ไปตระเวนตามหาป้าคนดังกล่าว จนเจอตัวที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ทราบชื่อคือ “ป้าเลื่อน” อายุ 62 ปี ชี้แจงว่าที่มีคนบอกว่าป้าเอาของจากตู้ปันสุขมาขายต่อนั้นไม่เป็นความจริง ของที่เอามาขายต่อป้าไปซื้อมาขายอีกที โดยป้าได้ไปรับซื้อของบริจาคจากคนเร่ร่อนที่อยู่แถวสถานีรถไฟหัวลำโพงมาขายต่อเท่านั้น เพราะสงสารคนเร่ร่อน เนื่องจากพวกเขาไม่มีอุปกรณ์ปรุงอาหาร จะต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือหุงข้าวก็ทำไม่ได้ จึงรับซื้อเพื่อให้สามารถนำเงินไปซื้อข้าวกินแทน ขณะที่ตัวป้าเองก็เอามาขายต่อในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดเพื่อเอากำไรเล็กๆ น้อยๆ พอประทังชีพไปเท่านั้น

โดยป้าบอกว่ารับซื้อนมกล่องละ 6 บาท มาขายต่อกล่องละ 7 บาท , 3 กล่อง 20 บาท , บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรับซื้อ 3 ห่อ 10 บาท ขายต่อ 5 ห่อ 20 บาท วันที่ขายในรูปนั้นขายได้ไม่ถึง 200 บาท กำไรไม่ถึง 100 บาท หักค่าแผงตลาดไปอีก 50 บาท จากนั้นป้าก็ยื่นเงินที่เหลือจากการขายของจำนวน 30 กว่าบาทให้เราดู ว่าตอนนี้เหลือเงินเท่านี้จริงๆ ส่วนตัวหนังสือที่เขียนข้างกล่องนมนั้นป้าอ่านไม่ออก เพราะอ่าน-เขียนหนังสือไม่เป็น ถ้ารู้ว่ามีการเขียนเพื่อไม่ให้ขายต่อก็จะไม่ทำ

หลังเกิดเหตุก็ถูกคนดูแลตลาดไม่ให้นำของมาขายอีก ป้ารู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าการไปรับของมาขายต่อเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ เดิมทีป้าเป็นคนเพชรบุรีเดินทางมา กทม.เพื่อเยี่ยมน้องสาวแต่ติดต่อน้องสาวไม่ได้ พอจะกลับบ้านก็ติดช่วงโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับได้ จึงมาหาอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเพื่อให้พ้นวิกฤตโควิดจะได้กลับบ้าน เมื่อขายของแล้วถูกสังคมต่อว่าก็ไม่กล้ารับของมาขายอีกและคงมารอข้าวแจกฟรีแถวหัวลำโพงเท่านั้น ป้ากล่าว..เรื่องราวจาก ปอเปี๊ยะ กาลเวลา

งานนี้ชาวเน็ตก็เสียงแตกเป็นสองฝั่งคือ รู้สึกเอะใจตรงที่รับซื้อมาจากคนเรร่อนอีกที เพราะส่วนใหญ่เค้าก็น่าจะกินเลยไม่น่าขายต่อ แต่บางคนก็เข้าใจและเห็นใจป้าเพราะป้าก็คงลำบากถึงต้องไปรับมาขายแบบนี้งานนี้ก็ต้องแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนแล้วละค่าาา

ขอบคุณข้อมูล : แหม่มโพธิ์ดำ

เรียบเรียงโดย : setup999