ผวาหนัก เตือนพบเชื้อไวรัส กลายพันธุ์ใหม่ C.1.2.

ข่าวทั่วไป

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19ตอนนี้ทำให้พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ซึ่งเชื้อโควิด-19มันสามารถกลายพันธุ์ใหม่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมได้ด้วยงานนี้จึงทำให้ผู้ติดเชื้อบางรายถึงกับเสียชีวิตไปเลยก็มี แม้ว่าจะมีวัคซีนมาก็ยังไม่สามารถต้านทานได้

ล่าสุดข่าวรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้ ระบุ เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธ์ุสายพันธ์ุใหม่อย่าง C.1.2. ที่ตรวจพบเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในแถบจังหวัดพูมาลังกาและจังหวัดเคาเต็ง

อันเป็นที่ตั้งของเมืองโจฮันเนสเบิร์กและกรุงพริทอเรีย เมืองหลวงของประเทศ คาดว่า เชื้อไวรัสกลายพันธ์ุนี้อาจสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ดียิ่งขึ้น และรับมือกับแอนติบอดีได้ดียิ่งขึ้น

เบื้องต้นพบการแพร่ระบาดของเชื้อ C.1.2. แล้วใน 6 จาก 9 จังหวัดของแอฟริกาใต้ รวมถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, มอริเชียส, โปรตุเกส, จีน, อังกฤษ, นิวซีแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์

โดยเชื้อสายพันธ์ุดังกล่าวนี้กลายพันธ์ุจากเชื้อ C.1. ที่พบในการระบาดระลอกแรกในแอฟริกาใต้เมื่อช่วงกลางปี 2020 มีส่วนที่กลายพันธ์ุ 44-59 จุดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุดั้งเดิมที่เคยตรวจพบในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน

โดยขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มดังกล่าวกำลังพยายามศึกษาว่า ไวรัสกลายพันธ์ุสายพันธ์ุใหม่ C.1.2. นี้ส่งผลต่อการสลายไวรัสของภูมิคุ้มกัน (Antibody Neutralization) ทั้งในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนและยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน

ขณะที่ทางด้าน ตูลิโอ เด โอลิเวียรา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย Krisp ระบุว่า การตรวจพบเชื้อไวรัสดังกล่าวยังอยู่ในปริมาณที่น้อยมากๆ แต่เราจะยังคงเฝ้าจับตาเชื้อไวรัสนี้ต่อไป

เชื้อไวรัสเบตา (B.1.351) ที่ตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้และได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มการกลายพันธ์ุที่น่ากังวล (Variants of Concern: VOC) ก็มีแนวโน้มการแพร่ระบาดลดลงเป็นอย่างมาก หลังจากที่เชื้อเดลตา (B.1.617.2)

ที่ตรวจพบครั้งแรกในอินเดียจะขยับขึ้นมาเป็นเชื้อสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ และสร้างความท้าทายเป็นอย่างมากให้กับผู้ผลิตและพัฒนาวัคซีน รวมถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับมือเชื้อกลายพันธุ์ชนิดนี้