การออกมาชุมนุมของกลุ่มม็อบปลดเเอกยังคงมีการจัดการชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง เเละในวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางม็อบคณะราษฎได้เดินทางไปยังเเยกเกียกกาย มุ่งหน้าสู่รัฐสภา จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังใช้ลวดหนามมากั้น เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในได้
จนสุดท้ายทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้น้ำเเรงดันสูงฉีดเข้าใส่ผู้ประท้วง พร้อมทั้งยังมีเด็กชายใส่ชุดนักเรียนวัย 3 ขวบถูกเเก๊ซน้ำตา จากการปะทะกันของเจ้าหน้าที่เเละกลุ่มม็อบในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากภาพนี้ถูกเผยเเพร่ลงไปยังบนโลกโซเชียล ชาวเน็ตหลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงภาพนี้กันสนั่น
เเละยังเข้ามาต่อว่าผู้เป็นพ่อต่างๆนาๆ พร้อมทั้งยังตั้งคำถามกันขึ้น ว่าการที่ผู้เป็นพ่อนำลูกมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้นั้น เพื่อที่จะต้องการใช้ลูกเป็นโล่กำบังในม็อบครั้งนี้หรือไม่ เเละเพราะอะไรถึงเข้าไปอยู่ในจุดที่มีการชุมนุมในครั้งนี้ได้
ล่าสุด ทางสื่อดังอย่าง อมรินทร์ทีวี ได้ติดต่อไปยังพ่อของเด็กชายรายนี้ โดยทางคุณพ่อได้ออกมาชี้เเจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “พยายามเดินออกมาครับ เเต่คนที่เข้ามาก็พยายามจะเดินดันเข้ามา เด็ก 2 คน คนโตก็คอยจับเสื้อ ผมก็พะวง
พอช่วงน้องนั่งลงไปเเค่นั้นเเหละครับก็เกิดอาการนั้นออกมา อาเจียนออกมา น้ำหูน้ำตาไหล ร้องเเสบตา ก็มีพี่ป่อเต็กตึ๊งหรืออาสาเข้ามาอุ้ม เเล้วก็มีเเอมมี่นี่เเหละครับวิ่งตามเข้าไป ผมไม่ได้ว่าใครผิดหรอกครับ ผมหลุดเข้าไปเอง
ได้ยินอยู่ว่าเจ้าหน้าที่ประกาศ เเต่ผมไม่ได้ใส่ใจเเล้วตอนนั้นผมต้องการจะออกผมดูเเล้วเหตุการณ์เราหลุดเข้ามาในม็อบที่กำลังจะเกิดความรุนเเรงเเน่ๆ พอภาพลงไปก็โดนถล่มเละเลย ทัวร์ก็ลงเต็มๆ หาว่าผมเอาเด็กไปเป็นโล่กำบัง หาว่าเอาเด็กไปอย่างงั้นอย่างงี้ ผมว่ามันไม่ใช่
ลองนึกในบริบทคนเป็นพ่อเป็นเเม่ น้ำเเรงดันสูงขนาดนั้น จะเอาเด็กไปเป็นโล่ นี่มันเกินไป เบื้องต้นลูกอยู่ในขั้นปลอดภัยเเล้ว เเต่จำเป็นต้องหยุดเรียนไปก่อน เเละถ้าหากมีอาการเเทรกซ้อนคุณพ่อก็จะพาน้องไปหาหมอต่อไป ”
ขอบคุณข้อมูล:Amarin News
