ภาพล่าสุด ต้อม ไกรวิทย์ อดีตนักร้องดัง เปลี่ยนไปมาก

บันเทิง

เรียกได้ว่าใครหลายๆ คนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าตัวเป็นอย่างดี สำหรับ ต้อม ไกรวิทย์ พุ่มสุโข อดีตนักแสดง นักร้องและพิธีกร โดยต้อมมีความชื่นชอบในดนตรีและการร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยมีนักร้องที่ชื่นชอบและถือเป็นแบบอย่างคือ นันทิดา แก้วบัวสาย โดยฝึกหัดเล่นดนตรีเมื่อเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3

ต่อมาได้เข้าประกวดร้องเพลงกับทางสยามกลการ และเข้าประกวดร้องเพลงอีกกับทางคลื่นวิทยุ 98.5 FM จึงทำให้ได้รู้จักกับ ปาริชาติ บริสุทธิ์ นักแสดงผู้เป็นภริยาของเพิ่มพล เชยอรุณ อดีตผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง

จึงถูกชักชวนให้เล่นละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 ในบทตัวร้ายซึ่งเป็นตัวประกอบ ต่อมาได้ออกอัลบั้มเพลงของตัวเองเมื่อต้นปี พ.ศ. 2531 ชื่อชุด มันอยู่ที่ใจ โดยที่ขณะนั้นยังมีสถานะเป็นพนักงานฝ่ายต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักงานใหญ่ อยู่ด้วย

จากนั้นจึงได้มีผลงานภาพยนตร์และละครตามมาอีกหลายเรื่องในฐานะตัวประกอบ เช่น เทวดาตกสวรรค์ ในปี พ.ศ. 2532, รักในรอยแค้น ในปี พ.ศ. 2535, มงกุฎดอกส้ม ในปี พ.ศ. 2539 และมีผลงานเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์

เช่น ท็อปเท็น ทางช่อง 9 และวิก 07 ทางช่อง 7 เป็นต้น ปัจจุบัน ได้เลิกราจากวงการบันเทิงโดยหันไปเป็นช่างแต่งทรงผมโดยได้ไปเรียนที่ประเทศแคนาดา โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจเรื่องการเปลี่ยนไปของรสนิยมทางเพศ

“จริงๆ ก็อยู่ในวงการมา 10 กว่าปีเกือบ 20 ปีละ เลยเบรกตัวเองไปอยู่ต่างประเทศ พอไปอยู่ต่างประเทศ ด้วยความที่วัยเรามั้งผมก็เริ่มร่วง เลยไปปลูกผม ก็เลยมีความสุขเลย ที่ไปต่างประเทศตอนนั้นคือแฟนอยู่ที่นั่นด้วย

ที่ไปต่างประเทศตอนแรกเข้าใจว่าจะไปเรียนวอยซ์เพื่มเติม และก็คิดไปคิดมาถ้าเรียนวอยซ์แล้วเรากลับมาเราจะมาทำอะไรล่ะ ทีนี้ก็เลยคิดว่าจะไปเรียนบิวตี้ คิดไปคิดมาก็สรุปไปเรียนทำผม เรียนตัดผม พอกลับมาก็มาเป็นช่างตัดผมนี่ก็ยังเป็นผู้ชายนะ ยังครบอยู่

คือเราไม่ได้อยากเป็นกะเทยแปลงเพศ หรือมีนม เราก็มีความสุขกับการเป็นตัวเรา เมื่อเราอายุมากขึ้นเราก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ก็เริ่มจากการไปปลูกผมก่อน พอเราไว้ผมยาวเราก็มีความสุข เพราะเราเป็นช่างผม มีความสุขกับการทำนู่นทำนี่กับผมเรา

เราเลยเริ่มเป็นคนไม่มีเพศที่ชัดเจน เราก็ชอบทำผมทรงไปเรื่อย ลูกค้าก็เลยจำได้ พอเราเปลี่ยนเรื่องผมเราก็เริ่มเปลี่ยนเรื่องการแต่งตัว พอไปเจอคนข้างนอกคนก็เริ่มทัก อุ้ยไม่เจอตั้งนาน หล่อ…เอิ่มม สวยยจัง”