รัฐบาลประกาศใจดี ให้กู้เงินฉุกเฉินคนละ 50,000 บาท

ข่าว

ต้องยอมรับค่ะว่า ปัจจุบันนี้นั้นเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในช่วงไม่ค่อยดีนักเท่าไหร่ ค่าครองชีพก็สูงขึ้น ราคาพืชผลผลิตของเหล่าบรรดาเกษตรกรก็ลดลง พ่อค้าแม่ค้าก็ขายของได้ไม่ค่อยดีนัก และที่หนักไปกว่านั้นก็คือ การหมุนเงินไม่ทันและต้องไปหาเงินกู้ที่ดอกเบี้ยแพงแต่เหมือนว่าจะมีข่าวดีแล้วค่ะ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า

ประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อย และเกษตรกรที่จำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างเร่งด่วน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครม. จึงเห็นชอบและลงมติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งวงเงินสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. อีก 5,000 ล้านบาท และธนาคารออมสินอีก 5,000 ล้านบาทมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญดังนี้

โครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน มีหลักเกณฑ์ที่สำคัญดังนี้ อนุมัติให้กู้ไม่เกินรายละ 50,000 บาท ซึ่งจะคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่เกิน 0.85% ต่อเดือน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี จะต้องมีบุคคลที่ค้ำประกันอย่างน้อย 1 คน และ/หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งนี้จะมีการพิจารณาการให้สินเชื่อจากความสามารถในการชำระหนี้ จากรายได้และค่าใช้จ่ายรวมของบุคคลในครอบครัวเป็นหลัก โดยสามารถตรวจสอบประวัติการชำระหนี้จากเครดิตบูโรได้ แต่จะไม่นำมาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาการสินเชื่อ ซึ่งจะสามารถมาทำเรื่องขอสินเชื่อได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563

นอกจากนี้นายณัฐพร ยังกล่าวอีกว่า โครงการนี้อาจจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อยสามรถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้กว่า 2 แสนราย โดยที่ไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยที่สูง และอาจจะช่วยลดปัญหาความรุนแรงที่เกิดจากการทวงหนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย

เรียบเรียงข้อมูลโดย:setup999

kan

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น