รู้สึกอย่างไร เมื่อองค์กรเรี่ยไร ตั้งบู๊ทดักบนห้าง

ข่าวทั่วไป

เพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “ปลั๊กไทย by มหาชะนี” ได้ออกมาตั้งคำรู้สึกอย่างไรองค์กรเรี่ยไรตั้งบู๊ทบนห้าง โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า “#องค์กรเรี่ยไรบนห้าง #มหาชะนีรีวิว #มีเวลาสัก2นาทีไหมไม่ได้มาขายของค่ะ

ห้างสรรพสินค้าควรเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของเรา แต่ทุกวันนี้เราต้องเดินหลบเดินเลี่ยง พวกมูลนิธิที่เรี่ยไรเราเหมือนเป็นภัยคุกคาม จนบางคนบอกเลยว่าไม่อยากเดินห้างเพราะเจอเรื่องพวกนี้ …, บางคนบอกว่า “ก็เดินผ่านไปสิอย่าไปสนใจ” คืองี้ครับ เราเดินทางตรง ๆ ของเราดีดี ชมนกชมไม้ชมร้านค้า อยู่ ๆ ก็มีคนแปลกหน้ามาดักหน้า ดักหลัง ขวางทางเดิน ขวางทางรถเข็น เราก็ตกใจ บางคนจับแขน ฉุดแขน พร้อมพูดจาที่ทำให้เรารู้สึกแย่

“พี่ไม่ฟังหน่อยหรือครับวันนี้ไม่มีใครฟังผมเลย” “พี่จะปล่อยให้เด็ก ๆ เหล่านี้ทุกข์ยากไม่มีคนช่วยหรือคะ” “พี่หนีภาษีไหมคะ มูลนิธิเราบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษีได้นะคะ” คือถามจริง ๆ เราต้องมาเจอกับเรื่องเหล่านี้ในวันที่เราต้องการรีแล็กซ์และพักผ่อนจริง ๆ หรือ ก่อนอื่นเลยจะบอกว่า #คนพวกนี้ไม่ใช่มูลนิธิ ไม่ใช่จิตอาสา แต่ให้มองว่าเขาคือพนักงานบริษัทคนหนึ่ง

จากข้อมูลวงใน น้อง ๆ เหล่านี้มีเงินเดือน โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมามักจะจ้างเด็กจบใหม่ที่โน้มน้าวง่าย ให้เงินเดือนสูง ๆ โดยแหล่งข่าวแจ้งว่า เมื่อ 4-5 ปีก่อนมีอายุ 25 ปี ได้เงินเดือน 25,000 บาท(ตามตำแหน่ง)พร้อมค่าคอมมิทชั่น ซึ่งรวม ๆ แล้วเป็นรายได้ที่ค่อนข้างสูง แถมทุกปียังมีโบนัสให้ด้วย

แต่เพิ่มเติมว่าในส่วนน้อง ๆ ที่ลงพื้นที่อาจจะไม่มีเงินเดือนตายตัวแบบเขา กินเป็นค่าคอมล้วน ๆ เอา กลหลอกล่อเด็กจบใหม่ คือหลอกล่อด้วยเงินเดือนในอัตราที่สูงแถมมีค่าคอมมิชชั่น ก็รู้อยู่เน่อะสมัยนี้หางานยาก หลอกด้วยชื่อตำแหน่งในเว็บออนไลน์ว่าเป็นผู้ช่วยผู้จัดการบ้าง เป็นมาร์เก็ตติ้งอีเว้นท์บ้าง sale &marketing บ้าง

พอมาทำจริง ๆ ก็เป็นการหายอดคนบริจาคไปซะงั้น ให้ไปอบรมเรื่องจิตวิทยาการพูดจาโน้มน้าวให้คนสนใจ ให้ใจอ่อนบริจาค บอกว่าถ้าทำยอดได้จะให้ไปเป็นเมเนเจอร์ จะได้เติบโต และอาจจะให้ไปเปิดเป็นอีกบริษัท ทำให้บริษัทพวกนี้มีบริษัทย่อย ๆ เยอะมาก แหล่งข่าวบอกว่า มีคนสามารถทำยอดได้สูง ๆ รายได้เดือนนึงเป็นแสน ๆ หรือหลายแสน เลยก็มีเช่นกัน

แต่ก็อีกเช่นกัน ถ้าทำยอดบัตรเครดิตไม่ได้ (บริจาคแบบผูกระยะยาวด้วยบัตรเครดิต) โดยที่เดือนหนึ่งขั้นต่ำให้ทำยอดบัตรเครดิต 10 ใบ ก็จะถูกให้ออกเช่นกันครับ เราคิดว่าเราเองถูกโน้มน้าวให้บริจาคจากน้อง ๆ พวกนี้ แต่จริง ๆ น้อง ๆ พวกนี้เองก็ถูกโน้มน้าวจากบริษัทมาอีกทอดหนึ่ง อนึ่งเลยคือตอนที่สมัครงาน บริษัทจะทำทีวาดฝัน เอาคนมารวม ๆ กันเป็นโต๊ะกลม คุยกันเรื่องโปรเจคต่าง ๆ

และความก้าวหน้าในชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงบริษัทดังกล่าว เอาหน้าม้ามาหลอกล่อน้อง ๆ ที่มาสมัครงานอีกที ทำให้รู้สึกอยากทำงาน ตื่นเต้นทั้งความก้าวหน้า และนโยบายบริษัท เพราะโดยปกติถ้าไม่โน้มน้าวงานพวกนี้ก็คงไม่มีใครจะอยากทำ คุ้น ๆ ไหมคล้าย ๆ กับพวกขายตรงหรือ MLM  แหล่งข่าวแจ้งว่า พวกบริษัทต่าง ๆ ทำตัวเหมือนเอเจนซี่ แต่มีค่าดำเนินการสูงมากกล่าวคือทั้งค่าเช่าห้าง ค่าบู๊ท ค่าสิ่งปลูกสร้างหรือการลงทุนต่าง ๆ

ค่าเงินเดือนพนักงาน ค่าลงทุนจิปาถะ ผู้บริหารใช้ของดีของแพงของหรู(ของบริษัท) มีรถประจำตำแหน่งคันโก้คันงาม ทำให้มีเงินถึงมูลนิธิจริง ๆ เพียงประมาณ 10% เท่านั้นครับ แหล่งข่าวบอกว่าตอนแรกเข้าใจว่าจะหารายได้ให้การกุศล ให้มูลนิธิมากที่สุด แต่พอไปทำจริง ๆ กลายเป็นว่ามีแต่การลงทุนเพื่อตัวเอง ถึงมือเด็กด้อยโอกาสน้อยมาก ๆ เขาเลยลาออก

ทั้งหมดทั้งมวลก็พอสรุปได้ว่าทำไม บริษัทเหล่านี้ถึงมีเงินมาเช่าพื้นที่ในห้าง และทำไมน้อง ๆ เหล่านั้นถึงคุกคามต้องการเงินบริจาคจากเราทุกเดือนทุกเดือน ทำไมพูดจาแย่ ๆ ใส่เรา น้องเขาก็กดดันเพราะต้องทำยอด ถ้ายอดไม่ถึงน้องเขาจะไม่ได้ค่าคอมและอาจจะถูกให้ออก คำว่าจิตอาสาอาจจะมี แต่ไม่ใช่กับคนเหล่านี้ ถ้ารู้แบบนี้แล้วคุณจะยังทำบุญอยู่ หรือจะไม่ทำบุญ ก็สุดแท้แต่ใจคุณครับ เงินของท่าน ท่านเลือกเองได้ เอาที่สบายใจ”

ขอบคุณข้อมูล:ปลั๊กไทย by มหาชะนี

เรียบเรียงโดย:setup999