ลูกสาวฝาแฝด บิ๊กตู่ ชี้แจงข้อกล่าวหา ยันจะฟ้องให้ถึงที่สุด

ข่าวทั่วไป

เอาจริง ลูกสาวฝาแฝด บิ๊กตู่ ขอโต้ทุกคำครหาในโซเซียล พร้อมยืนยันว่าจะฟ้องให้ถึงที่สุด ในขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ได้ออกมาเผยว่า“ทีมบิ๊กตู่” ยันภาพ2 สาวเปรี้ยว ที่แชร์กัน ในโซเชียลฯ ไม่ใช่ภาพลูกสาว”นายกฯบิ๊กตู่” ยันไม่เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ ออสเตรเลีย-อังกฤษ แค่เคยไปเที่ยว ชี้เป็นคนเรียบร้อยเก็บตัว วอนหยุดแชร์เฟคนิวส์

#ความจริงลูกประยุทธ์.แหล่งข่าวใกล้ชิด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าภาพผู้หญิงสองคนที่แชร์กันในโซเชียลฯ นั้นไม่ใช่ภาพลูกสาวฝาแฝดของพลเอกประยุทธ์ แต่อย่างใด ขอให้หยุดการแชร์และส่งต่อ ลูกสาวนายกฯเป็นคนเรียบร้อยและค่อนข้างเก็บตัว แต่เคยไปเที่ยวและใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยมาตลอด

ทั้งนี้ ในวันนี้ น้องพลอยและน้องเพลินนางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา ได้ ส่งทนายความไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนางเลิ้งแล้วทั้งนี้ บุตรสาวฝาแฝด ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกเอกสารคำชี้แจง 3หน้ากระดาษ ว่า

จากข้อกล่าวหาใน Social Media #ตามหาลูกประยุทธ์ ที่เป็นกระแสสังคมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้า นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา ประสงค์ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล หรือสื่อใดๆ

ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ข้าพเจ้าทั้งสอง เช่นการกล่าวหาว่า ข้าพเจ้าทั้งสอง เปลี่ยนนามสกุล, อาศัยอย่างสุขสบายอยู่ในคฤหาสน์ต่างประเทศ, เป็นเส้นทางฟอกเงินของบิดาและอื่นๆ โดยปราศจากหลักฐานและไม่มีมูลความจริงเช่นนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวข้าพเจ้าทั้งสองและวงศ์ตระกูล ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง

ข้าพเจ้าทั้งสอง ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการงานของบิดา ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆทางการเมืองวันนี้ข้าพเจ้าทั้งสอง จำเป็นต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี สิทธิของตนเองและวงศ์ตระกูลข้าพเจ้าทั้งสองขอเรียนชี้แจง ในประเด็นข้อกล่าวหาต่างๆ ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น ดังนี้

ข้อ 1 กล่าวหาว่า : มีการเปลี่ยนมาใช้นามสกุลมารดา เพื่อทำเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ เช่น ฟอกเงิน ขอวีซ่าเพื่อหนีไปอยู่ต่างประเทศ ฯลฯ

ข้อเท็จจริง : ไม่เคยมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใดๆ ยังคงใช้ชื่อ ธัญญา จันทร์โอชา และ นิฏฐา จันทร์โอชา ตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจจุบัน

ข้อ 2 กล่าวหาว่า : ไม่ได้อยู่ประเทศไทย

ข้อเท็จจริง : อยู่ประเทศไทยมาโดยตลอด ใช้ชีวิตปกติอย่างประชาชนคนไทยทั่วไป

ข้อ 3 กล่าวหาว่า : เรียนอยู่ประเทศออสเตรเลีย

ข้อเท็จจริง : ไม่เคยเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย เคยเดินทางไปท่องเที่ยวเพียงครั้งเดียว เมื่อวัยเด็ก

ข้อ 4 กล่าวหาว่า : เรียนอยู่ต่างประเทศ

ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสอง เรียนจบชั้นประถมและมัธยม จาก โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ เรียนจบปริญญาตรี จาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เท่านั้น

ข้อ 5 กล่าวหาว่า : สอบตกปริญญาโท อธิการบดีถูกกดดันให้รับเข้าเรียน

ข้อเท็จจริง : ไม่ได้เรียนปริญญาโท และ ไม่เคยสอบตก เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 และ 3.96 และ เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 ทั้งคู่

ข้อ 6 กล่าวหาว่า : ปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีเจ้าสัวซื้อให้

ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองใช้ชีวิตตามปกติในประเทศไทย ไม่เคยพำนักอาศัยในประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นใดเป็นระยะเวลานาน ไม่เคยพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใดๆ

ข้าพเจ้าทั้งสองได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอังกฤษครั้งล่าสุดในปีพ.ศ.2558 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว โดยเข้าพักโรงแรมตามปกติ ในการนี้ ข้าพเจ้าทั้งสองได้มอบหลักฐานการเดินทางเข้าออกประเทศไทย ให้กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

ข้อ 7 กล่าวหาว่า : มีการซุกเงิน ฟอกเงิน โดยบิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกที่ต่างประเทศ

ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศ มีเพียงบัญชีธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น

ข้อ 8 กล่าวหาว่า : บิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกทั้งสองคนเพื่อฟอกเงิน

ข้อเท็จจริง : บิดาโอนเงินให้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือ ความลับใดๆ บิดาเป็นผู้ชี้แจงเองและแจกแจงที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจนในการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.อย่างเปิดเผย ตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2557

และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทั่วไปหลายครั้งแล้ว โดยเงินส่วนนี้มีที่มาจากการขายที่ดินของ พันเอก ประพัฒน์ จันทร์โอชา (คุณปู่) และมีการแบ่งทรัพย์สินภายในครอบครัว ซึ่งที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวมามากกว่า 50 ปี

ข้อ 9 กล่าวหาว่า : ทำไมไม่เคยมีภาพหลุดออกมาใน Social Media ใดๆเลย แม้กระทั่งของเพื่อนยังไม่มีภาพ

ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีส่วนตัวใน Social Media ใดๆ และ กลุ่มเพื่อนที่ติดต่อกันก็เข้าใจในสิทธิความเป็นส่วนตัวจึงไม่เคยแชร์ภาพใดๆ และไม่ต้องการให้มีบุคคลใดนำภาพไปแอบอ้างใช้หาประโยชน์

ข้อ 10 กล่าวหาว่า : ไม่เปิดเผยตัวเหมือนลูกนักการเมือง หรือ ลูกนายกฯ คนอื่นๆ

ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองใช้ชีวิตปกติเหมือนประชาชนคนไทยทั่วไป ไม่ได้ต้องการเป็นที่รู้จักหรือเปิดเผยตัวว่าเป็นลูกใคร เพราะ ไม่ต้องการได้รับอภิสิทธิ์หรือเพื่อรับผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของบิดา หากมีใครแอบอ้างว่ารู้จัก สามารถช่วยเหลือเพื่อรับผลประโยชน์ต่างๆ ได้ เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด

ข้าพเจ้า นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา ต้องการใช้สิทธิทางกฎหมายโดยการฟ้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด กับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย,กล่าวหา,คุกคาม,หมิ่นประมาททั้งหมด ทั้งผู้ที่โพสต์และแชร์ ในทุกช่องทาง Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Youtube ฯลฯ รวมถึงสื่อ หรือ พื้นที่สาธารณะอื่นๆโดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น

ข้าพเจ้าทั้งสองประสงค์ให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างและบรรทัดฐานของการใช้ Social Media ในประเทศไทยว่า ผู้ใดก็ตามไม่มีสิทธิเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม,หมิ่นประมาท ผู้อื่นโดยปราศจากหลักฐาน

และในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมีผู้ใดตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จากการหลงเชื่อข้อมูลโดยขาดการไตร่ตรอง คิดวิเคราะห์แยกแยะ เพียงเพราะความอคติ และ ความเกลียดชัง อีกต่อไปหากผู้ใดมีหลักฐานการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย,

กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าทั้งสองเพิ่มเติม ขอความร่วมมือส่งข้อมูลมาที่ทนายความของข้าพเจ้าทั้งสอง ทางอีเมล law.one555@gmail.com เพื่อรวบรวมและดำเนินการฟ้องร้องต่อไป นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา2 กันยายน 2563#ความจริงลูกประยุทธ์Fb.Wassana Nanuam

ขอบคุณข้อมูล : Wassana Nanuam