สธ. แจงเหตุผล ไฟเซอร์ ทำไมต้องผสมน้ำเกลือก่อนฉี ด

ข่าวทั่วไป

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ค. 64 วัคซีนไฟเซอร์ ที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้จำนวน 1.54 ล้านโดส ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานนี้ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าคนกลุ่มไหนจะได้รับการฉีดวัคซีนนี้ก่อน

หรือด่านหน้าอย่างบุคลาการทางการแพทย์ทั่วประเทศ หรือจะเป็นพี่น้องประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19มากที่สุดทั้งใน กทม.และจังหวัด

ในขณะเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า วัคซีนไฟเซอร์ ที่รับบริจาคมาต้องเก็บในคลังวัคซีนที่กำหนไว้เนื่องจากการเก็บวัคซีนไฟเซอร์

จะต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส จากนั้นมีการสอนวิธีผสมการฉีดวัคซีน ซึ่งวัคซีนนี้ไม่เหมือนกับวัคซีนที่เราเคยใช้ ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวด

ที่ดูดจากขวด 2-8 องศาเซลเซียสแล้วสามารถฉีดได้เลย แต่วัคซีนไฟเซอร์จะต้องเก็บอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียล จากนั้นก็จะส่งไปยังหน่วยฉีด

เพื่อเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ซึ่งวัคซีนจะอยู่ได้ไม่นาน อายุอยู่ได้ราว 4 สัปดาห์ ฉะนั้นเวลานำมาจะต้องรีบใช้ และการใช้ก็จะแตกต่างกัน

ต้องมีกรรมวิธีการผสม เนื่องจากเป็นวัคซีนเข้มข้น จะต้องมีผสมน้ำเกลือลงไปให้ได้ตามสัดส่วน และดูดจากขวดใหญ่เพื่อฉีดกับประชาชน โดย 1 ขวดจะฉีดได้ 6 คน

ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องเตรียมการทั้งการเก็บรักษา การผสมวัคซีน และนัดหมายการฉีดซึ่งจะต้องอบรมบุคลากรอีกครั้งผ่านระบบออนไลน์

ทั้งนี้จะมีคณะกรรมการกำหนดว่าจะฉีดให้กับกลุ่มไหน ซึ่งหลังการเบื้องต้นนโยบายได้รับความเห็นชอบจาก ศบค.เรียบร้อยแล้ว และจะมีการประกาศให้ประชาชนได้ทราบในระยะต่อไป