สรุปปมดราม่า # saveครูวัง หลังถูกวิจารณ์คลิปเรียนออนไลน์

ข่าวทั่วไป

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่กระทรวงศึกษาธิการ จัดให้มีการเรียนออนไลน์ภาษาอังกฤษ ซึ่งในโลกออนไลน์ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงขึ้นเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน ป.6 ที่มีอาจารย์ท่านหนึ่งมาสอน แต่การออกเสียงและใช้แกรมม่าของอาจารย์หลายคำไม่ถูกต้อง อย่างเช่นคำถามที่ว่ากินข้าวหรือยัง

ครูพูดว่า Have you breakfast? แต่หลายคนท้วงติงว่าควรจะเป็น Did you have breakfast? ซึ่งก็ทำให้มีคนพูดถึงจนเกิดเป็นแฮชแท็ก #saveครูวัง ขึ้นเทรนด์ในทวิตเตอร์เลยทีเดียว ล่าสุด ดร.เด่นชัย ปราบจันดี หัวหน้าภาควิชาบัณฑิตศึกษานานาชาติ การพัฒนาทรัยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยบรูพา ออกมาแสดงความคิดเห็นในอีกแง่มุมหนึ่ง โดยระบุว่า ” #คุยกันเฉพาะเรื่องสำเนียง

วันนี้มีการถ่ายทอดการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งมีคุณครูท่านหนึ่งมาสอนให้ดู คือ ท่านก็พูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยนะ แต่ก็เข้าใจได้ ท่านใช้แกรมม่าก็ไม่ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์นะ แต่ก็เข้าใจได้ หลายคนดูถูกสำเนียงท่าน บางคลิปถึงกับถอดรหัสเป็นคำภาษาคาราโอเกะเพื่อสะท้อนว่าท่านออกเสียงไม่ถูกต้องตามหลักเจ้าของภาษา (เพื่อสื่อเป็นนัยยะว่าเอามาเป็นตัวอย่างได้ไง) คอมเมนต์ต่างๆ

เหล่านี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับการผลักสำเนียงที่หลากหลายให้อยู่ชายขอบ (marginalized) และการติดกับดักห้วงความคิดของโลกจักรวรรดินิยม ในฐานะนักวิจัยหน้าใหม่ด้าน Goblal Englishes ที่ศึกษาเกี่ยวกับ การสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนตระหนักถึงความหลากหลายของภาษาอังกฤษ ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม ด้วยความถ่อมตน ดังนี้

1. สำเนียงที่หลากหลายถือเป็นเรื่องปกติ เพราะ L2 users ที่เรียนภาษาอังกฤษจะได้รับอิทธิพลจากภาษาแม่อยู่แล้ว ต่อให้เราเรียนการออกเสียงจากเจ้าของภาษา เราก็มีสำเนียงไทยอยู่ดี ต่อให้เรียนกับเจ้าของภาษา ถ้าที่บ้านพูดภาษาไทย ก็จะมีสำเนียงไทยปนอยู่ พูดง่ายๆ คือ เราไม่สามารถถูกฝึกให้เป็นเจ้าของภาษาได้ ธรรมชาติของเราทำแบบนั้นได้ยาก

2. เรามีโอกาสที่จะพบเจอ L2 users ที่มีสำเนียงหลากหลายมากกว่าเจ้าของภาษาอยู่แล้ว เพราะจำนวน L2 users เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคนกลุ่มนี้เองที่บอกว่า สำเนียงเจ้าของภาษาฟังยากกว่า L2 users

3. ในการสื่อสารจริง การบรรลุวัตถุประสงค์ของการสื่อสารและความสามารถในการเจรจาต่อรองความหมาย สำคัญกว่า การมีสำเนียงเป๊ะและแกรมมาเป๊ะเหมือนเจ้าของภาษาด้วยซ้ำ ดังจะเห็นได้จาก ถึงแม้ว่าเจ้าของภาษาจะสื่อสารกันเอง เขายังต้องเจรจาต่อรองความหมายอยู่ และงานวิจัยก็ระบุชัดว่า เจ้าของภาษาเองก็มีสำเนียงที่หลากหลายและไม่ได้สื่อสารผ่านแกรมม่าที่เป๊ะ

4. การมี “สำเนียงดี” เป็นเพียงวาทกรรมของโลกจักรวรรดินิยมที่ครอบงำความคิดของคนในสังคมมายาวนาน ด้วยสถานการณ์การใช้ภาษาอังกฤษที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เราต้องปลูกฝังค่านิยมใหม่ให้กับผู้เรียนของเราให้มีจิตใจเปิดกว้างต่อความหลากหลายของภาษาและให้เคารพสำเนียงที่หลากหลาย

ที่เขียนมายืดยาวคือไม่อยากให้ดูถูกสำเนียงของคุณครู ขอร้องให้หยุดว่าคุณครูนะฮะ สงสารท่าน หยุดครอบงำกันเอง เราควรปลดปล่อยการใช้ภาษาอังกฤษให้อิสระ ความหลากหลายของสำเนียงก็คือ ความสวยงามของภาษาอีกอย่างหนึ่ง #หยุดครอบงำกันเอง ”

ขอบคุณข้อมูล : Denchai Prabjandee , #saveครูวัง