หนุ่มเชียงใหม่ โวยหลัง ศบค. แถลงกลับจากภูเก็ตติดโควิด-19

ข่าวทั่วไป

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเลยทีเดียวทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยเองในวันที่ 18 พ.ค. 63 ก็มีรายงานว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 3 ราย ป่วยสะสม 3,031 ราย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 1 ราย รักษาตัวอยู่ 118 ราย หายป่วยกลับบ้านรวมแล้ว 2,857 ราย และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มรวมแล้วอยู่ที่ 56 ราย

ล่าสุดเฟซบุ๊ก Phuketandamannews ได้ออกมาโพสต์ระบุว่า ” ⛔หนุ่มเชียงใหม่ โวย ศบค.แถลงกลับจากภูเก็ตติดโควิด สุดท้ายตรวจซ้ำ ผลเป็นลบ‼️ทุกวันจะมีการรายงานตัวเลขผู้ป่วยโควิดรายใหม่ โดยเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ศบค. รายงานว่า มีผู้ป่วย 1 ราย ประวัติคือเดินทางออกจากภูเก็ต กลับบ้านที่ จ.เชียงใหม่ แต่ล่าสุดพบว่า หนุ่มรายดังกล่าวได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตนเองว่า จากผลการตรวจซ้ำ ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด

โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ผลการตรวจของผมครับ -วันที่ 13 พ.ค แจ้งว่าผลการตรวจเป็นบวกจาก รพ.แรกและส่งตัวผมไป รพ.ที่สอง ในเวลาตี1โดยประมาณ ทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจ(บอกผลเลือดว่าเป็นปกติ)และนอนรอ -วันที่ 14 ได้ทำการเจาะตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอด และเก็บตัวอย่างในโพรงจมูกและคอ ตามมาตรฐานการตรวจเชื้อโควิดและรอผลตรวจยังไม่ออก (**แต่มีการแถลงข่าวว่าผมติดเชื้อโควิด ) ผมยังคงนอนรอผลการตรวจ

-วันที่15 คุณหมอแจ้งผลทางวาจาว่าผลของเมื่อวาน(14พ.ค)​ “เป็นลบ” ผลปอดปกติ ผลเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิดยังไม่มี แล้วตามที่ผมได้โพสไปก่อนหน้านี้ว่าคุณหมอจะขอทำการตรวจซ้ำอีกครั้งและรอผลยืนยันอีกครั้งถ้าเป็นลบ ผมจะได้กลับบ้าน -วันที่16คุณหมอทำการตรวจตามวิธีเดิมและ ผลคุณหมอได้แจ้งผมผ่านไลน์ ช่วงเวลา22.00 น .โดยประมาณและในตอนนี้ผมได้อยู่บ้านแล้วครับ

-สรุปคือ ผมมีเชื้อเพียงหนึ่งคืน(ทั้งนี้ตลอดช่วงเวลาตั้งแต่อยู่ภูเก็ตจนเดินทางมาถึงเชียงใหม่ผมไม่เคยป่วย มีไข้ ไอ หรือน้ำมูก น้ำลายเหนียว เลยสักวันจนขณะนี้ (ผมยังคงมีคำถามอีกมากมายจากการป่วยครั้งนี้)??? -ในส่วนภรรยาและลูกได้รับผลยืนยันทั้งสองครั้งเป็นลบ

-อีกเรื่องที่ผมอยากขอโทษเรื่องวินัยในการกักตัว ใช่ครับผมมีวินัยในการกักได้ประมาณเกือบ10วัน (ไม่รวมตอนที่ภูเก็ตอีกหนึ่งเดือน) โดยอาศัยฝากเพื่อนซื้ออาหารเข้ามาให้ นานเข้าเราก็เริ่มเกรงใจเพราะบ้านของแต่ละคนไกลจากพื้นที่ บ้างหางดง บ้างดอยสะเก็ด บ้างแม่ริม และเนื่องจากที่เราเพิ่งกลับมาอยู่มันไม่ใช่ แค่เรื่องอาหาร ของใช้ภายในบ้านก็ชำรุดทรุดพัง ฝนตก ไฟดับ

*ยุงลาย เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่โรคโควิดที่ระบาด ยังมีไข้เลือดออกอีก และตลอดระยะเวลาเกือบ 10 วัน เราไม่ได้มีหน่วยงานใดๆ เข้ามาดูแลเหมือนตอนที่เกิดเป็นข่าวเรื่องนี้ขึ้นมามันจึงค่อนข้างลำบากเพราะเรามีลูกเล็กและไม่มีญาติที่นี่ ผมขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ

-อีกทั้งเรื่องความรับผิดชอบทางสังคม (จริงๆคำนี้ต้องตามด้วย ในภาวะโรคระบาดครับ) ใช่ครับครอบครัวเราก็กลัวการรับเชื้อ จึงใส่แมส ล้างมือ พกครีมและแอลกอฮอร์ และสร้างระยะห่างทางสังคม1เมตร ไม่นำของเหลวหรือสานคัดหลั่งใดๆไปถูก เปื้อน ผู้อื่น เราปฎิบัติอย่างนั้นเพราะเรามีเด็กเล็ก

-อีกทั้งข่าวที่บิดเบือน ข้อความคุกคาม ที่ครอบครัวผมได้รับผมไม่เคยตอบโต้ใดๆ-การที่ผมและครอบครัว ต้องมีการตรวจหาเชื้อนั้น มาจากมาตรการว่าคนที่กลับมาจากภูเก็ตต้องได้รับการตรวจ เพราะก่อนที่เราจะกลับ เราได้ลงทะเบียนแจ้งล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าปลายทางคือที่ไหน ไม่ใช่การตรวจพบโดย อสม. หรือว่าผมมีอาการป่วยครับ รวมทั้งการทำความสะอาด การฆ่าเชื้อที่บ้านผมก็ไม่มีนะครับ มีแค่เพียงการนำแมส 1กล่องเจลล้างมือ 1ขวดและไฮเตอร์1ขวด มาให้ที่บ้านเท่านั้นขอบคุณและขอโทษทุกคนที่ทำให้ไม่สบายใจครับ” ”

ขอบคุณข้อมูล: Phuketandamannews