หนุ่มเผยผลไปตรวจภูมิ หลังฉีดวัคซีน ซิโนแวค ครบ 2 เข็ม

ข่าวทั่วไป

กรณีสถานการณ์โควิด-19ระบาดหนักไปทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากโดยตอนนี้หลายๆประเทศก็กำลังเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้กับประชาชน แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดปัญหาตามมามากมายฉีดไปแล้วแพ้ เกิดผลข้างเคียงตามมาจนประชาชนบางคนไม่กล้าไปฉีด

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาเผยหลังฉีกวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ก็ได้ไปตรวจภูมิพบภูมิขึ้นน้อยมาก ระบุว่า ขอรีวิวผลการตรวจภูมิ 3 วิธีหลังได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มนะครับ

1. igM/igG test kit

2. ปริมาณ anti-spike antibody ด้วย ECLIA เครื่อง Roche

3. nAb ด้วย ELISA

เหตุผลที่ไปตรวจคือ ตัวเราอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ในจังหวัดพบผู้ติดเชื้อเกือบ 500 คนติดต่อกันมาระยะนึงแล้ว วันๆนึงเราต้องเจอแรงงานทั้งชาวไทยและเชื้อชาติอื่นๆที่ทำงานละแวกนี้หลายสิบคนครับ ถ้าผมป่วยก็ไม่อยากเอาเชื้อไปติดพวกเขาครับ ในด้านการจัดการส่วนตัวจำเป็นต้องรู้เพื่อวางแผนการทำวัคซีนต่อ และในเชิงสังคมก็เรามีคำถามคาใจกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครับ

ประกอบกับเราเห็น real world data จากประเทศต่างๆแล้วน่ากังวล ประสิทธิภาพของ Sinovac ที่ WHO แจ้งมาต่ำมากถ้าเทียบกับเจ้าอื่นที่ผ่านการรับรองด้วยกัน และเปเปอร์เกี่ยวกับวัคซีนตัวนี้มีให้อ่านน้อยครับ แม้จากผู้ผลิตเองจนถึงตอนนี้ phase 3 ยังมีแค่ pre-print ให้ศึกษาครับเราได้ Sinovac เข็มแรกวันที่ 8 เมษายน และได้รับเข็มที่ 2 วันที่ 29 เมษายนครับ

วิธีที่ 1 igM/igG test kit ของ Krestel Bio Sciences พัฒนาโดย มอ.

แน่นอนเราทราบว่าไม่ควรใช้วิธีนี้ในการตรวจหาภูมิจากวัคซีน เพราะการตรวจแบบนี้ส่วนใหญ่มักใช้น้ำยาสำหรับดูภูมิที่ได้รับหลังการติดเชื้อ หรือกำลังติดเชื้ออยู่หรือไม่มากกว่า แต่เราต้องการตรวจเพราะทราบว่าหลังจากได้วัคซีนเข็มแรกการยับยั้งเชื้อจากวัคซีนจะยังไม่ดี จุดประสงค์ของเราจึงการตรวจเพื่อดูว่าตนติดเชื้อหรือไม่ในเบื้องต้นก่อน หากสงสัยจริงๆก็ไปตรวจด้วยวิธีอื่นๆที่มีผลลัพท์แม่นยำกว่าต่อครับ

ทำ igG/igM test kit ไป 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 คือหลังวัคซีนเข็มแรกประมาณ 2 สัปดาห์ ครั้งที่ 2 หลังวัคซีนเข็มที่ 2 ประมาณ 2 สัปดาห์

ครั้งที่ 3 หลังวัคซีนเข็มที่ 2 เกือบ 3 สัปดาห์ทุกครั้งไม่พบว่าติดเชื้อหรือเจอภูมิ ตรวจอันนี้ไม่ซีเรียสครับ เป็นแค่การเชคเบื้องต้น

วิธีที่ 2 ตรวจดูปริมาณ anti-spike antibody ด้วยวิธี ECLIA ด้วยเครื่อง Roche ที่แล็บของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เก็บตัวอย่างเลือดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน

ผลคือ ตรวจเจอภูมิ โดยมีปริมาณอยู่ที่ 40.41 U/mL ครับ reference สำหรับวิธีนี้ให้ไว้ที่มากกว่าหรือเท่ากับ 0.8 U/mL ส่วนค่า median ของภูมิที่ได้รับหลังการติดเชื้อที่แล็บนี้ให้เป็น 91.74 U/mL ซึ่งภูมิที่ผมได้รับก็น้อยกว่าค่อนข้างเยอะ

และเพื่อนๆที่เป็นหมอได้ตรวจหลังรับ snv ครบ 4 สัปดาห์แล้วหลายคนที่แชร์ผลตรวจมาก็ได้ภูมิจากวัคซีนมาในปริมาณที่น้อยพอกัน น้อยที่สุดที่ตัวผมทราบคือ 2U/mL เป็นหมอที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องการฉีดวัคซีนโควิดในสถาบันการสอนแพทย์แห่งนึง ตกใจแทน ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

แต่อย่างไรก็ตามทาง WHO หรือหน่วยงานที่น่าเชื่อถือต่างๆยังไม่มีการกำหนดตัวเลขว่าปริมาณ anti-spike antibody นั้นควรมีเท่าใดจึงจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อโควิด หรือมีเท่าใดจึงจะมีประสิทธิภาพยับยั้งเชื้อโควิดได้ดี ค่าที่ได้จากการตรวจด้วยเครื่องและวิธีต่างๆก็ยังไม่ได้ standardized นะครับ ในปัจจุบันก็ถือว่าตรวจวิธีนี้เพื่อทราบว่าเจอภูมิรึเปล่าพอนะครับ

เพราะถึงได้ภูมิชนิดนี้สูงแต่ถ้ากลไกอื่นๆในร่างกายทำงานได้ไม่ดีก็อาจจะยับยั้งเชื้อได้ไม่ดีนักครับ แล้ววันก่อนเพิ่งเจอคลิปคนแชร์กันเยอะ มีหมอ tiktok คนนึงเอาปริมาณ anti-spike antibody ไปแปลผลโดยไม่เข้าใจว่ามันต่างจาก % inhibition ของ nAb อย่าหาทำครับ

วิธีที่ 3 ตรวจดู % inhibition ของ nAbโดยใช้วิธี ELISA เพื่อดูความสามารถในการยับยั้งเชื้อโควิดโดยส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ เก็บตัวอย่างเลือดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน(คิดว่าดูจาก surrogate)

ค่า cutoff ที่ 20% คือระดับต่ำที่สุดของความสามารถที่ยับยั้งไวรัสได้และที่ใช้ตัดสินว่ามีภูมิขึ้นหรือไม่ “ถ้ามีระดับสูงกว่า 68% แสดงว่ามีระดับที่น่าพอใจใช้ได้ ” ซึ่งตัวเราได้ที่ 23.01% inhibition คือเกินค่าต่ำสุดที่ตั้งไว้มานิดเดียวและห่างจากค่าที่น่าพอใจอยู่มากครับ

ถ้าเอาเทียบกับผลวิจัยของ AstraZeneca และ Pfizer ที่ทำกับเชื้อสายพันธุ์ Delta ที่การยับยั้งเชื้อของทั้งคู่ลดไปพอสมควร ภูมิที่มีในร่างการผมหลังจากได้รับ Sinovac นั้นคงยับยั้งแทบไม่ได้ครับ แต่ก็ขอให้ไม่ป่วยหนักตามที่รัฐเคลมไว้ครับ คงหวังได้แค่นี้ อันนี้คือพิจารณาที่ค่า nAb ที่ได้นะครับ

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นภูมิส่วนตัวของเรา ร่างกายของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อวัคซีนต่างกัน การทำงานของร่างกายยังมีอีกหลายระบบ แต่ถ้าเจอไวรัสตัวเก่งๆที่ incubation period ไวๆ B cell ก็อาจจะทำงานไม่ดีพอ(Delta variant และ Beta variant มีในไทยแล้วทั้งคู่) ส่วน T cell นั้นทางผู้ผลิตเคลมว่าวัคซีนของเค้าช่วยเพิ่มได้ แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานหรือผลวิจัยใดๆออกมายืนยันครับ

ถ้าสถาบันชีวะวัตถุกับ Biotec อยากเอาซีรั่มของผมไปตรวจก็ยินดีนะครับ DM มาได้เสมอ จะได้มีให้ครบทุกวิธีแล้วที่เขียนมานี่ไม่ได้ต้องการให้คนที่อ่านเจอไม่ฉีดนะครับ ต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเองดูครับ เราขอไม่ทั้งสนับสนุนหรือค้านครับ ส่วนตัวเรานั้นประเมินตัวเองแล้ว

แม้จะรู้ของมันไม่ได้ดีพอก็ยังต้องรับเข้าร่างกายครับ มันไม่มีทางเลือกจริงๆขอบคุณเพื่อนและอาจารย์หมอทุกคนที่ช่วยให้คำปรึกษาและข้อมูลต่างๆเสมอมาครับ ขอบคุณทั้งความรู้และความห่วงใยที่มีให้กันครับ 🙂ที่นี้คำถามที่ยังคาใจ

1. ทำไมถึงต้องเจาะจงใช้ Sinovac เป็นหนึ่งในวัคซีนหลักของประเทศในเมื่อพิจารณาจากการยับยั้งเชื้อแล้วมันด้อยกว่าทุกบริษัทที่ WHO รับรอง ข้อมูลล่าสุดไทยใช้ Sinovac 70.02% AstraZeneca 29.08%

2. หากยืนยันจะสั่งเพิ่ม 28 ล้านโดส ก็ถือว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่(เพราะไม่เจอข่าวว่ามีประเทศไหนเค้าสั่งกันแล้ว) ทำไมรัฐบาลไม่ขอผลวิจัยที่น่าเชื่อถือก่อนเพื่อประกอบการพิจารณา ไม่เอาแค่ pre-print นะครับ มันเงินมหาศาลและเดิมพันด้วยชีวิตของคนมหาศาลเช่นกัน

ไม่เอาคำเคลมลอยๆของผู้ผลิตแล้วด้วยครับ ถ้าเค้าให้ไม่ได้ทำไมยังจะซื้อ มันมีดีลอะไรที่สำคัญกว่าชีวิตมนุษย์อีกเหรอ ความเป็นคนในใจไม่ทราบว่าจุด cutoff อยู่ที่เท่าไหร่ แต่ผมสงสัยความเป็นคนของพวกคุณเกินจุด cutoff บ้างสักนิดไหมครับ?

3. บุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนไปแล้ว 1.8 ล้าน มีจำนวนมากที่ฉีดกันครบเดือนไปแล้วด้วย ตัวเลขน่าจะเยอะพอแล้วที่จะขอตัวอย่างเซรั่มมาวิจัยจริงๆจังๆเป็นทางการ ว่า sinovac มันเป็นยังไงแน่ จะได้วางแผนถูกว่าจะฉีดเพิ่มหรือไม่ ฉีดอะไรเพิ่มดี เปลี่ยนเจ้าดีหรือไม่ แล้วทั้งปีที่ผ่านมาที่ยกย่องนักรบชุดขาวนี่ถามจริงๆว่ารักว่าห่วงหมอกันจริงเหรอถึงเอา sinovac มาฉีดให้

แล้วผลออกมาเป็นกันตายแต่ไม่กันติดนี่ หมอมีโอกาสเสี่ยงรับเชื้อมากๆนะครับ ถ้าติดมาแล้วคนในครอบครัวหมอ คนไข้คนอื่นที่ต้องเจอหมอกันอีกล่ะครับ?จากเหตุการณ์นี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้หมอและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนครับ หมอที่ยังเป็นสลิ่มอยู่ก็ขอให้หายไวๆนะครับ สู้ๆครับ

4. หมอคนที่เชียร์ sinovac มาตลอดจนมันกลายเป็นวาทกรรมที่สร้าง fallacy ในสังคมซึ่งมีผลไปจนถึงการกำหนดนโยบายรัฐ คุณมีความละอายแก่ใจบ้างไหมครับ อ.อ่าง หากจะเปลี่ยนเป็น สระ า ตรงชื่อวิชาชีพที่เอามานำหน้าชื่อของตัวคุณนั้นมีความต่างกันไหมครับถ้าคนจะเผลอเรียกผิด ที่ทำมาทั้งหมดคุณต้องการอะไรกันแน่ครับ? ตอนนี้คุณเป็นหมอหรือดีเทลยาครับ แล้วดีเทลยาทุกคนที่ผมรู้จักก็ดูมีจรรยาบรรณมากกว่าคุณครับ อย่างน้อยเค้าไม่บิดเบือนข้อมูลวิจัย

5. คนพอมีเงินออกมาบ่นแค่เมื่อไหร่ Moderna/Pfizer จะเข้าไทย เอาจริงๆถ้ามีเงินก็อยากให้มีความรู้เพิ่มด้วย ฝากบ่นฝากถามเพิ่มว่ารัฐจอง Novavax รึยัง ตัวนี้น่าสนใจมากๆครับ และนอกจากมีเงิน มีความรู้ ฝากมีความเป็นคนเพิ่มขึ้นด้วยครับ คุณมีปัญญาจ่าย 3,800 บาท แต่คนอีกจำนวนมากในประเทศไม่มี ยิ่งสถานการณ์แบบนี้เงินจะกินจะใช้ในชีวิตประจำวันเค้าก็หายากกันแล้ว

คุณต้องตั้งคำถามว่าทำไม 2 ยี่ห้อที่คุณอยากได้เหลือเกินนั้น ประชาชนที่ประเทศอื่นเขาไม่ต้องควักเงินเพิ่มเองครับ เมื่อมีต้นทุนสูงกว่าไม่ว่าจะด้านใดก็อย่าเอาแค่ตัวรอด ขวนขวายแค่เพื่อตัวเอง เวลาอ่านเจอมันน่ารังเกียจ

6. เจ้าของหุ้นใหญ่ sinovac ครับ ทั้งชีวิตที่ผ่านมาคุณผลาญชีวิตสัตว์มามหาศาลแล้ว ตอนนี้บั้นปลายชีวิตของคุณอยู่อีกไม่ไกล ก่อนตายอยากลองผลาญชีวิตมนุษย์ให้ได้พอๆกับสัตว์ที่ฆ่าไปใช่ไหมครับ?