ดูเหมือนว่าตอนนี้สถานการณ์โควิด-19จะกลับมาระบาดหนักอีกครั้งหลังจากที่หลายๆประเทศพบโควิด-19สายพันธุ์ใหม่อย่าง “โอไมครอน” ที่ถือว่ารุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆที่เคยพบเจอมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในประเทศไทยก็มีข่าวรายงานว่าพบผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19สายพันธุ์ดังกล่าวแล้วด้วยแต่ไม่ได้มากเหมือนกับต่างประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอบุัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์เตือนระบุว่า
วัคซีนอย่างเดียวไม่อยู่ 12-13/12/64 ในสถานการณ์แพร่ระบาดใหม่ผสมปนเประหว่างเดลต้าและโอไมครอน การสร้างหลักประกันความปลอดภัยโดยการใช้วัคซีนอย่างเดียวไม่พอ ทั้งนี้เนื่องจาก
1- แม้ฉีดไปสามเข็มแล้ว AZ AZ PZ หรือ SV SV AZ หรือ PZ พ้น 3-4 เดือน เริ่มรั่ว เดลต้า เขตโรงงานของประเทศไทยหลายแห่งอาจจะระบาดใหม่ และซ้ำรอยเดิม
2- และ แม้แต่ PZ PZ หรือ MDN MDN ป้องกันได้ 20-30% ต่อ โอไมครอนเท่านั้น ทั้งๆที่เก่งกว่า และเมื่อ ต่อด้วยเข็มสาม ในระดับห้องทดลอง อาจขึ้นมาเป็น 70กว่า % แต่ไม่ทราบว่าจะยันได้นานเท่าใด
3- การฉีดกระตุ้นซ้ำๆ มีทางเกิดขึ้นแต่ผลข้างเคียงรุนแรงถึงชีวิตจากวัคซีนย่อมมีขึ้นมากเป็นเงาตามตัว อีกทั้งภูมิที่มีอยู่อาจจะผันกลายเป็นภูมิที่ช่วยให้ติดเก่งขึ้น รุนแรงมากขึ้น นั่นคือ ต้องปรับเป็นเข้าชั้นผิวหนังเร็วที่สุด และลดอันตรายของวัคซีน เอาแต่ประโยชน์
4- ทั้งเดลต้าและโอไมครอน มีความสามารถแพร่ได้เร็ว โดยตัวใหม่เก่งกว่าหลายเท่า และแม้ว่าตัวโอไมครอนดูจะเสมือนไม่รุนแรง ต้องไม่ลืมว่าถ้ามีติดเชื้อใหม่เป็น หมื่น แสน ล้านคน สัดส่วนของคนที่มีอาการหนัก ตาย แม้ดูน้อยกว่า แต่จำนวนจะมหาศาลขึ้น จน รพ พังพาบ
5- ทางที่ต้องรีบทำเร็วที่สุด ให้คนไทยมีสิ่งป้องกันตัวเมื่อมีติดเชื้อแล้วและกินโดยเร็วที่สุดเพื่อกันไม่ให้อาการหนักแล้วต้องเข้าโรงพยาบาล นั่นคือ ฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ยาไอเวอร์เมคติน
(ซึ่งใช้เป็นการป้องกันล่วงหน้าหรือหลังสัมผัสหรือใช้รักษาแต่เริ่มต้น) และ ยาฟลูออกซิตีน ทั้งหมด ไม่ยาก เลยถ้าทำ และทำเดี๋ยวนี้ หมายเหตุ และอย่าลืม เบต้า ที่มีอยู่แล้ว และ วัคซีนทั้งหมด จะกันได้ น้อยกว่า แอลฟา เดลต้ามาก
ขอบคุณข้อมูล : ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha
