หมอธีระวัฒน์ โพสต์เตือนควรปิดประเทศ เพราะเราเหลือเวลาน้อยแล้ว

บันเทิง

ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะเริ่มวิกฤตหนักมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว จนทำให้ นพ.ธีระวัฒน์ เหมาะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ต้องออกมาโพสต์ข้อความเตือนผ่านเฟซบุ๊ก ถือสภานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่หลายในหลายๆพื้นที่ทั่วประเทศไทยโดยระบุว่า

” สาเหตุสำคัญที่ต้องปิดประเทศและต้องปิดบ้าน ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา 19/3/63 1- ไม่มียา ยาที่คิดว่าจะใช้ได้ มีการรายงานมาหลายคราว และล่าสุดในวารสาร นิวอิงแลนด์ 18 มีนาคม ว่า ยา lopinavir/ritonavir ไม่ได้ผล มีแต่ยาchloroquine ที่รักษามาลาเรีย ที่เราพอหาได้ กับ favipiravir (ผลิตที่ญี่ปุ่นและจีน) ที่เรามีจำนวนจำกัดมากสำหรับคน 600 ถึง 700 คนเท่านั้น และภาวนาให้มีพอเป็นหมื่นๆคน (1คนใช้ 70 เม็ด)

2- ระบบสาธารณสุข กายภาพ อุปกรณ์ กำลังคน เตียง แยกอาการหนัก ที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิตและก่อให้เกิดละอองที่จะให้เกิดการติดต่อทางการหายใจ ควรต้องเป็นห้องความดันลบจริงๆ ที่ทั้งประเทศ มี 100 กว่าห้อง (ใช่หรือไม่) และกระจัดกระจายอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆแห่งละไม่มาก ห้องที่ดัดแปลง รวมทั้งห้องแยกอื่นๆ รวมทั้งไอซียู มีพอจริงหรือไม่ รวมทั้งเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ช่วยชีวิต

นอกจากนี้ ห้องเหล่านี้ในโรงพยาบาลหลายแห่งใช้เครื่องปรับอากาศรวม ถ้ามีการใช้อุปกรณ์ ที่ก่อให้เกิดการติดต่อทางการหายใจจะสามารถแพร่กระจายไปกว้างขวาง บุคลากรมีหมอทั่วประเทศไม่ถึง 30,000 คนและเป็นหมอติดเชื้อ ทางปอด และภาวะวิกฤตมีอาจจะเป็นจำนวน 1000 หรือน้อยกว่า และถ้าเกิดเหตุวิกฤตเอาหมอทั่วไปที่ไม่ชำนาญในการดูคนไข้และการใส่ชุดปกป้องตัวเอง แทนที่จะช่วย

กลับติดโรคและกลายเป็นภาระให้ต้องรักษาต่อ ทางพยาบาล นักวิทยาศาสตร์ เทคนิคการแพทย์จะยิ่งแล้วใหญ่ โดยที่ขณะนี้งานหนักมหาศาลอยู่แล้ว และคนไข้แออัด เต็ม วอร์ด เต็มไอซียู และครองเตียง ครองเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ช่วยชีวิตไปหมดแล้ว 3- ถึงวันนี้เป็นวาระสุดท้ายที่ต้องก้าวนำเชื้อโรคไม่ใช่เกิดวิกฤติรุกล้ำเข้าไปในระบบสาธารณสุขมากกว่านี้ด้งที่มีข้อจำกัดมาก ดังข้อ 1-2 ถ้ายังคงก้าวตามหลัง ดูตามตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต

โดยไม่ได้ตระหนักว่าโรคนี้การติดต่อ จากบุคคลสู่บุคคลเป็นลูกโซ่ และยากที่จะจำกัดผู้ติดเชื้อและผู้ใกล้ชิด ที่แพร่เชื้อได้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่เป็นหนุ่มสาวแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวจะเป็นคนแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ว่าในที่ทำงาน ในระหว่างการเดินทางด้วยรถสาธารณะ หลังเวลาทำงาน ไปแพร่ระหว่างกลุ่มคนอีกมากมาย และเมื่อเชื้อแพร่เข้าไปในกลุ่มคนเปราะบางสูงอายุและมีโรคประจำตัว

และเมื่อเชื้อเข้าไปในโรงพยาบาลจากญาติผู้ป่วยที่เข้าไปเยี่ยมโดยมีการติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือน้อยมากจนตรวจจับไม่พบ เมื่อนั้นก็จะเป็นการแพร่อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะใน รพ ที่แออัด ตั้งแต่ ที่จอดรถ หอ ผู้ป่วยนอก และแน่นอน แพร่ไปทุกพื้นที่ การปิดบ้าน ปิดเมืองเดี่ยว ยากที่จะทำให้ประเทศสะอาด เรียนจากประเทศจีน เรียนจาก

ประเทศอื่นๆที่ไม่ยอมรับบทเรียนและวิธีแก้ไขจากประเทศจีน เราฟื้นความมั่นใจความเชื่อมั่นรวมทั้งเศรษฐกิจได้ค่าเราทำจริง เราเหลือเวลาน้อยมาก จากใจ หมอธีระวัฒน์ ปล. น้องๆ fb update favi มีอีก 80,000 จะเข้ามาอีก 120,000 =รักษาได้เพิ่มอีก 2857 คน ”

ขอบคุณข้อมูล:ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha

เรียบเรียงโดย:setup999