หมอเมย์ เล่าที่มาอาการป่วย ตูน บอดี้สแลม ที่ถึงกับต้องเข้า รพ.

บันเทิง

ทำเอาแฟนคลับและคนใกล้ชิดเป็นห่วงอย่างหนักเลยค่ะ สำหรับ ตูน บอดี้สแลม ที่เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ตูน ป่วยมีอาการกระดูกคอกดทับเส้นประสาทต้องรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยมีภรรยาคนสวย ก้อย รัชวิน ดูแลไม่ห่าง ล่าสุด หมอเมย์ แพทหญิง สมิตดา สังขะโพธิ์ ทีมแพทย์ที่สนิทกับตูนมาก เพราะเคยร่วมวิ่งกับตูนในโครงการก้าว ได้เผยถึงที่มาอาการเจ็บของ ตูน ว่า

“อาการปวด ชา แขนอ่อนแรง กับการวินิจฉัยของตูนบอดี้แสลมว่าเป็นหมอนกระดูกเบียดเส้นประสาท ย้อนหลังไปสิบปีกับคอนเสิร์ต Live in คราม ที่ยิ่งใหญ่ ความยิ่งใหญ่ของคอนครั้งนั้น พอๆกับปัญหาสุขภาพของตูนในช่วงนั้นที่มีอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อน ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลพระรามเก้าอยู่นานร่วมสัปดาห์

ที่มาสาเหตุมาจากการใช้ก้านคอมากเวลาเล่นและฝึกซ้อมเพราะมีทั้ง โยก หมุน สะบัด ที่ทีมแพทย์เป็นห่วงมากหลังจากที่ MRI พบว่าหมอนปริ่มเกือบจะเบียดไขสันหลังขนาดที่คุณหมอศัลยกรรมประสาทที่ดูแลช่วงนั้นถึงกับบอกว่า ตูนโชคดีมากที่หมอนกระดูกเคลื่อนมากขนาดนี้แต่ไม่มีอาการทางระบบประสาทแม้แต่น้อยแถมยังฟื้นตัวเต็มร้อยกลับไปเล่นคอนเสิร์ต

ทีมแพทย์ที่นำทีมโดยพลโท พญ. วิไล ชินสกุล แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู รักษาโดยการพักร่วมกับการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ให้งดการใช้ก้านคอแบบสุดขั้ว พร้อมกับสั่งการว่าห้ามเล่นกีฬากระแทก ส่วนนี้เองอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พี่ตูนหันจากการเตะบอลมาวิ่งแทน ทำให้วงการวิ่งของไทยได้รับความนิยมมากขึ้นมากในช่วงเวลานั้น

พวกเรายาวกันไปถึงโครงการก้าว บางสะพาน เบตงแม่สาย ที่เพือ่นๆที่ติดตามพี่ตูนตอนนั้นจะรู้ว่าในช่วง 800 กม. แรกปัญหาข้อจำกัดของการวิ่งอยู่ที่ขาและกล้ามเนื้อ แต่ในช่วง 300 กม. สุดท้าย ปัญหากลับกลายเป็นอาการปวดที่แขนมากจนต้องคล้องผ้าพันแผลไว้ แต่ตอนนั้นยังไม่มีอาการอ่อนแรงของมือและกล้ามเนื้อรวมถึงอากาารชาด้วย

ตอนนั้นทีมแพทย์พอจะทราบว่ามีอาการของหมอนกระดูกเบียดเส้นประสาท และอาการกล้ามเนื้อเกร็งในแบบเดียวกันกับที่เป็นในช่วงของ Live in คราม แต่ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงที่ขาสองข้างนั้นจะพาร่างกายไปถึงแม่สาย พี่ตูนคือพี่ตูน ถ้าไม่สุดคงไม่หาหมอ ไม่ทนไม่ไหวจริงๆแทบจะไม่ได้ยินคำขอเพื่อตัวเองของผู้ชายคนนี้ มีแต่จะขอเพื่อคนอื่น

หมอนกระดูกที่เบียดเส้นประสาทรอบนี้น่าจะทำให้เส้นประสาทเส้นที่เจ็ดโดนกดทับแล้ทำให้มีอาการชาและอ่อนแรง อาการครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกและแน่นอนว่าน่าจะมีส่วนต่อผลพวงมาจากการใช้ชีวิต และความเสื่อมที่เกิดต่อเนื่องตามเวลาและพฤติกรรม ปัญหาครั้งนี้ตามแถลงการณ์ที่ได้ฟังกันไปแล้วนั้น

แผนการรักษาของอาการหมอนกระดูกเบียดเส้นประสาทครั้งนี้ จะรักษาแบบประคองอาการ พักเพื่อให้อาการอักเสบและบวมของหมอนกระดูกและเส้นประสาทลดลง ให้ยาลดอาการปวด ทำกายภาพบำบัดลดอาการปวด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ประคองมวลกล้ามเนื้อไม่ให้ฝ่อลีบจากการอ่อนแรง ใส่อุปกรณ์ที่ประคองคอลดการรับน้ำหนักของศรีษะและเตือนการใช้ก้านคอ รวมถึงอาจจะต้องรักษากล้ามเนื้อที่มีอาการเกร็งตัวและปวดด้วย เมื่ออาการปวด ชาทุเลาลง เป็นที่น่าพอใจ หมายถึงทีมประสบความสำเร็จในการรักษาแบบประคองอาการ

หากการรักษาข้างต้นไม่สำเร็จอาจด้วยกิจกรรมหรือพยาธิสภาพของโรคเป็นมากอาจจะต้องผ่าตัดเพื่อลดการกดทับของเส้นประสาท ที่เป็นการแก้ไขที่สาเหตุโดยตรงโดยแพทย์เฉพาะทางออโธปิดิกส์ที่เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกคอ เราคงต้องติดตามให้กำลังใจกันต่อไปค่ะ หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า จะกลับมาร้องเพลงได้ไหม ได้แน่นอนค่ะ ในระยะแรกๆก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปก่อนเหมือนตอนสมัยที่มีอาการมาเมื่อสิบปีก่อน แต่ร่างกายที่ฟื้นฟูดีแล้วก็จะทำได้มากขึ้นเรื่อยๆ

เราอาจจะได้ฟังคอนเสิร์ตแนวนั่งเล่น ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ก็ได้นะคะ อะไรที่หมอว่าดี พี่ตูนก็คงจะว่าดี อะไรที่พี่ตูนว่าดีแฟนๆก็ว่าดีแหละค่ะ แฟนคลับก็คือแฟนคลับเนอะ แล้วจะกลับมาวิ่งได้ไหม  ถ้าอาการปวดลดลง ชาลดลง ทุกอย่างเข้าที่ สามารถวิ่งได้ค่ะ แต่ในช่วงแรกจะเป็นเป้าหมายเพื่อสุขภาพไปก่อน ไม่ใช่การทำเวลาหรือศักยภาพ  แต่พี่ตูนก็คือพี่ตูน 😅 หมอจะต้องเข้าใจและเป็นเพื่อนที่ให้ข้อมูลให้ครบถ้วนพี่ตูนจะตัดสินใจอย่างไร แฟนคลับรอให้กำลังใจกันนะคะ ได้เจอพี่ตูนที่งานวิ่งแน่นอนค่ะ

เรื่องนี้อาการของโรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ต้องกังวลเกินไป  เป็นโรคความเสื่อมร่วมกับการใช้เกินกำลัง สามารถใช้ชีวิตปกติได้แต่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามเวลา  ทำงานได้ ร้องเพลงได้ วิ่งได้ เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆคนเสมอและตลอดไป หมอเมย์ไม่ได้เป็นทีมแพทย์ในครั้งนี้ แต่พอทราบข่าวคราวและติดตามเรื่องราว ให้กำลังใจพี่ตูนน้องก้อย ให้อาการดีขึ้นอย่างเร็ววันนะคะ ” อย่างไรก็ขอให้ ตูน หายป่วยไวๆนะคะ

ขอขอบคุณ : May Clinic คลินิกนักวิ่งโดยหมอเมย์ , rachwinwong

เรียบเรียงโดย : setup999

kan