อาจารย์ ม.ดัง โพสต์ถึง พิมรี่พาย

ข่าว

ดูเหมือนว่าจะเกิดดราม่าเบาๆขึ้นกับยูทูบเบอร์ บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังอย่าง พิมรี่พาย พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้เดินทางไปช่วยเหลือเด็กบนดอยในวันเด็ก ที่หมูบ้านแม่เกิบ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ด้วยการนำแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้า

นำโทรทัศน์จอยักษ์ไปติดตั้งที่ลานหมู่บ้าน ทำแปลงผักเพื่อสอนให้ชาวบ้านปลูกกินและนำไปขาย รวมไปจนถึงของใช้ต่างๆที่จำเป็น ซึ่งเธอลงทุนไปทั้งหมด 5 แสนบาทเลยทีเดียวเพื่อเด็กๆบนดอยสูง แต่งานนี้ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ พิมรี่พาย ทำให้เด็กๆ

ล่าสุดมีอาจารย์ ม.ดัง ได้ออกมาจวก พิมรี่พาย ว่า” ความฝันมันสร้างกันง่ายๆด้วยการติดทีวีให้ดู ติดแผงโซล่าเซลล์ หาเกิบให้เด็กใส่ เอาไฟฉายติดให้บนหัว เลิก “ถางภูเขาเป็นลูกๆ” และ “สอน” ชาวบ้านให้หัดรู้จักปลูก “ผักสลัด”มันไม่ใช่ความฝันของเด็กดอยหรอกแบบนี้ มันความฝันอยากจะโปรดสัตว์ชนชั้นล่าง

ของพวกชนชั้นกลางในเมืองที่ไม่เคยรู้/สนห่าเหวอะไรเลยเกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเบียดขับชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย และการตัดขาดพวกเขาออกจากการเข้าถึงทุกอย่างในสังคม ที่อย่าว่าแต่ทีวีเลย ลำพังแค่จะทำไร่ปลูกข้าวให้มันพอกินในที่ดินที่พวกป่าไม้ยึดครอง ยัง “ขัดตา”พวกชนชั้นกลางในเมืองเลย

เศรษฐกิจการโปรดสัตว์ สนองตัณหาความฟีลกู๊ดของพวกคนในเมืองสร้างกำไรเสมอ โดยเฉพาะในวันเด็กแบบนี้” และยังได้คอมเมนต์ต่อเพิ่มเติ่มอีกว่า” ไม่เคยบริจาคเงินให้พวกเด็กชาวเขาเป็นหลายแสนหรอกนะคะ เพราะไม่ได้ร่ำรวย และไม่เคยคิดว่าการบริจาคเงินเป็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้กับกลุ่มชาติพันธุ์

แต่ถ้าถามสิ่งที่เคยทำมาในฐานะที่เป็นนักวิชาการ เคยไปขึ้นศาลช่วยคดีชาวบ้านกะเหรี่ยงที่อมก๋อยนี่ล่ะค่ะ ถูกป่าไม้ฟ้องไล่จับจะขังคุกข้อหาตัดไม้ทำไร่ เอางานวิจัยเรื่องไร่หมุนเวียนที่ทำนี่ล่ะค่ะ ไปให้ศาลอ่าน เพื่อจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า ระบบวิถีชีวิตของชาวบ้านบนดอยนั้นเป็นอย่างไร

ตลอดชีวิตทำงานวิจัยที่ผ่านมา ตลอดจนการทำงานเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่งานวิจัย พยายามทำให้คนชนชั้นกลาง และรัฐ เข้าใจผู้คนบนดอยมากขึ้นมาตลอด อย่างที่บอกในโพสต์ค่ะ ความฝันไม่ได้สร้างกันง่ายๆด้วยการติดทีวีให้ดู

การให้นั้นไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก แต่อย่าใช้การให้มากล่าวอ้างว่าเป็นการสร้างความฝันให้คน และอย่าใช้วาทกรรมความขาดแคลนทางวัตถุ มาปิดบังโครงสร้างอำนาจที่ไม่เท่าเทียมที่กลุ่มชาติพันธุ์บนที่สูงเผชิญมาตลอด ” ดูเหมือนว่าจะงานเข้าซะแล้วนะเนี่ย

ช่วยเหลือเด็กบนดอยสูง

อนาคตของเด็กๆ

ขอบคุณข้อมูล:Pinkaew Laungaramsri

tom