รพ.นครพิงค์ เผย เด็กเชียงใหม่อายุน้อยที่สุด ติดเชื้อโควิดจากคนในครอบครัว

ข่าวทั่วไป

กรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวนี้มันสามารถติดได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็กที่เพิ่งคลอด หรือผู้ใหญ่ คนแก่ บางรายติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี ถือว่าเป็นอะไรที่น่าเศร้าใจสุดๆเลยทีเดียว

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลนครพิงค์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยเด็กเชียงใหม่ที่อายุน้อยที่สุด 22 วันติดโควิด-19จากคนในครอบครัว ระบุว่า “เมื่อเด็กเล็กติดเชื้อโควิด ‼️การระบาดของโรคโควิดระลอกนี้ของจ.เชียงใหม่ มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็กๆ (Update อายุน้อยที่สุดเพียง 22 วัน)

จากสถิติผู้ป่วย โควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่จนถึงวันที่ 27 เมษายน 2564 มีผู้ป่วย โควิด-19 สะสม 3,359 ราย พบว่ามีการติดเชื้อในครอบครัวค่อนข้างมาก และเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี ถึง 99 ราย (2.9 %)แม้ว่าผู้ป่วยเด็กส่วนใหญ่มักไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่

แต่ถ้าเป็นเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอดหรือมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเกิดโรคโควิดที่รุนแรงถึงชีวิตได้เช่นกันการดูแลผู้ป่วยเด็กในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ได้มอบหมายให้โรงพยาบาลนครพิงค์เป็นโรงพยาบาลหลักในการดูแล

และให้คำปรึกษากรณีเด็กติดเชื้อ โควิด-19 โดยทีมกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลนครพิงค์รพ.นครพิงค์จะรับดูแลผู้ป่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงสูงและเด็กที่มีอาการ ส่วนเด็กที่ไม่มีอาการหรือไม่มีความเสี่ยงสามารถให้การดูแลที่โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลสนาม

เช่น กรณีที่ศูนย์เด็กเล็ก ต.แม่คือ อ.ดอยสะเก็ด ได้ที่ผ่านมา รพ.นครพิงค์ได้ให้การรักษาผู้ป่วยเด็กกลุ่มนี้ ไป 12 ราย พบว่าเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปีถึง 9 ราย โดยเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่ติดเชื้อโควิดมีอายุเพียง 3 เดือน (Update ‼️ ผู้ป่วยเด็กอายุน้อยที่สุดเพียง 22 วัน)

เด็กส่วนใหญ่มีอาการระดับปานกลาง(ระดับสีเหลือง) 8 ราย (73%) คือมีผลเอกซเรย์ปอดผิดปกติแต่ไม่มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ มีเด็ก 1 รายที่มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ และมีเด็ก 2 ราย ที่มีความเสี่ยงแต่ไม่มีอาการในเด็กจำนวน 12 รายนี้ อาการพบบ่อยได้แก่ น้ำมูก 82% และมีไข้ 45%

นอกจากนั้นมีอาการถ่ายเหลว ทานได้ลดลง เล่นลดลง,ซึม หรือมีผื่น ในรายที่มีอาการหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรครุนแรงจะให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ หลังจากที่ได้ให้การรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ไป 10 จาก 12 ราย เด็กทุกรายมีอาการดีขึ้นหลังจากได้ยา

การที่เด็กป่วยเป็น โควิด-19 มีผลกระทบทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่ทีมแพทย์และพยาบาลผู้รักษาจำเป็นต้องมองให้รอบด้านเป็นองค์รวม เช่น กรณีตรวจพบเด็กติดเชื้อ โควิด-19 แต่พ่อแม่ตรวจไม่พบเชื้อหรือพ่อแม่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 แต่เด็กไม่ติดเชื้อ

ซึ่งหลักของการควบคุมโรคติดต่อจำเป็นต้องมีการแยกเด็กที่ติดเชื้อ โควิด-19 และกักตัวนานอย่างน้อย14 วัน การกักตัวเด็กเล็กที่ติดเชื้อ โควิด-19 ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจทั้งการถูกจำกัดพื้นที่ การที่ต้องแยกจากพ่อแม่หรือครอบครัว โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังดูแลตนเองไม่ได้

โดยทั่วไปแล้วในเด็กก่อนวัยเรียน เด็กมักจะอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่จึงมีโอกาสที่จะสัมผัสความเสี่ยงได้น้อย การได้รับเชื้อของเด็กกลุ่มนี้จึงเกิดจากผู้ใหญ่ที่นำเชื้อมาติดเด็ก ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือพี่เลี้ยง ดังนั้น จึงอยากจะสื่อสารถึงทุกท่าน ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด

ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ งดไปพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันทั้งตัวท่านเองและเด็กๆที่อาจจะต้องมาติดเชื้อจากท่าน แล้วเราจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันพญ.สุภารัชต์ กาญจนะวณิชย์กุมารแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิรพ.นครพิงค์ ”

ขอบคุณข้อมูล : โรงพยาบาลนครพิงค์