เปิดบ้าน หนึ่ง จักรวาล ทำงานตั้งแต่เด็ก จนเป็นแถวหน้าของเมืองไทย

บันเทิง

ต้องบอกเลยว่าใครหลายๆ คนคงรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าตัวเป็นอย่างดี สำหรับ หนึ่ง จักรวาร ซึ่งเจ้าตัวโด่งดังและกลายเป็นที่รู้จักมาจาก รายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง และ I Can See Your Voice Thailand นักร้องซ่อนแอบ

แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเป็นนักเปียโน เป็นนักเรียบเรียงดนตรี เป็นโปรดิวเซอร์ เป็นวิสิกไดเร็กเตอร์ เป็นแทบจะทุกตำแหน่งในกระบวนการผลิตดนตรี และเจ้าตัวได้รับการยอมรับในแวดวงดนตรีมานานหลายปี

จากความสำเร็จอันปรากฏขึ้นมาเด่นชัดในช่วงเวลาปีสองปีนี้ ทำให้หนึ่ง เป็นนักดนตรีที่มีงานชุก ผู้จัดอย่กคว้าตัวเขาไปขึ้นเวที ไม่เฉพาะเวทีคอนเสิร์ตและรายการประกวดร้องเพลงเท่านั้น

เมื่อเร็วๆ นี้หนึ่งได้ข้ามสายมาขึ้นเวทีสัมนา “Passion To Profit พลิกมุมคิด….สร้างธุรกิจให้ติดลม” ซึ่งหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ จัดร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ บนเวทีนี้วิทยากรทุกคนเป็นนักธุรกิจ

ยกเว้นหนึ่งคนเดียวที่เป็นนักดนตรี แต่ที่ทีมงานเลือกเขามา ให้เขาแชร์ประสบการณ์ชีวิตที่ต้องอดทนและเพียรพยายามอย่างมากกว่าจะประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ฟัง ให้ได้เห็นว่าในการทำธุรกิจอาจจะเจออุปสรรคมากมาย

คุณสมบัติอย่างหนึ่งที่คนทำธุรกิจต้องมีก็คือความอดทนและความพยายาม หนึ่งเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงชีวิตวัยเด็กว่าบ้านอยู่ในชุมชนคลองเตย พ่อเป็นคนขาพิการ ทำงานขับรถรับจ้างเลี้ยงครอบครัว ส่วนแม่เป็นคนไม่มีการศึกษา

ไม่มีอาชีพ ฐานะทางบ้านยากจนและอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นยุคมืดสุดๆ ของชุมชนคลองเตยที่เต็มไปด้วยยาเสพติดในสภาพแวดล้อมแบบนั้น หนึ่งบอกว่า งงๆ อยู่เหมือนกันที่รอดมาได้ เพื่อนรุ่นเดียวกันตอนนี้จากไปหมดแล้ว

หนึ่งบอกว่า ศิลปินหลายคนที่เขาร่วมงานด้วยมีส่วนในการสร้างชื่อเสียงความสำเร็จของนักดนตรีชื่อ หนึ่ง จักรวาล เขาอธิบายว่า ตัวเขาเป็นเพียงนักดนตรีคนหนึ่ง หากนักร้องที่อยู่หน้าเวทีไม่ให้เกียรติพูดถึง

และแนะนำชื่อเขาให้คนดูได้ยิน ก็คงไม่มีใครสนใจนักดนตรีที่เล่นอยู่ด้านหลังนักร้อง แต่เขาได้รับเกียรติจากศิลปินทุกคนที่เอ่ยชื่อเขาจนผู้ชมคุ้นชื่อนอกจากการเล่นดนตรีหาเงินช่วยครอบครัวแล้ว หนึ่งก็มีแพชั่นเกี่ยวกับดนตรีอย่างแรงกล้าเหมือนนักดนตรีคนอื่นๆ

เขาเล่าว่า เวลาซื้อเทปมาแกะเพลง เขาอ่านเครดิตคนทำเพลงในปกเทปแล้วจดชื่อนักดนตรีโปรดิวเซอร์ มิวสิกไดเร็กเตอร์ รายชื่อทีมงานทำเพลงที่เขาได้ยินชื่อบ่อยๆ และจดรายชื่อศิลปินที่เขาอยากร่วมงานด้วยใส่สมุดไว้

ผมคาดหวังไว้ว่าวันหนึ่งผมจะออกตามล่าอีโร่ของผมทุกคน ลิสต์ยาวมาก จนวันนี้ผมได้ครบหมดทุกคนแล้ว คนสุดท้ายที่เก็บได้คือ พี่จิก ประภาศ ชลศรานนท์ หนึ่งเล่าอย่างมีความสุข