แฉ รร.ดังย่านเกษตรนวมินทร์ ใช้แบบประเมินพิจารณา นักเรียนที่เบี่ยงเบนทางเพศ

ข่าวทั่วไป

กลายเป็นกระแสวิจารณ์ในโซเซียล เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาแฉถึง โรงเรียนชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์ กับแบบการประเมินพิจารณาภาคทัณฑ์ นักเรียนที่เบี่ยงเบนทางเพศ โดยระบุว่า ” ดิชั้นมีเรื่องต้องอธิบายคะ แบบบันทึกพฤติกรรมรายบุคคล ฉบับนี้เป็นฉบับที่ละเมิดคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักเรียนหลากหลายเพศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของ ตอนที่๒ “ความผิดระดับร้ายแรง”

คณะกรรมการระดับโรงเรียน จะพิจารณา “ภาคทัณฑ์” นักเรียน และจะได้รับผล การประเมิน “ไม่ผ่าน” คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สำหรับนักเรียนที่ถูกบันทึก ความผิดระดับร้ายแรง ดังนี้(ตามภาพ) มีข้อนึง ระบุไว้คือ “เบี่ยงเบนทางเพศ” ซึ่งความจริงแล้วโลกมนุษย์ใบนี้ไม่มีใครที่เบี่ยงเบนทางเพศ มีแต่คนที่มีความหลากหลายทางเพศ… ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าคำว่าเบี่ยงเบนทางเพศอาจเป็นความรู้เก่า

และแบบประเมินนี้คงผลิตออกใช้มานานจนไม่ได้แก้ไข ซึ่งท่านๆอาจตามไม่ทันว่าสมัยนี้เค้าไม่ใช้กันแล้ว แต่ถึงอย่างไร หากท่านเข้าใจว่า คนที่เบี่ยงเบนทางเพศ คือ คนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ #LGBTIQANs แล้วละก็ ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะ นำศักดิ์คุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนเพศหลากหลาย มาระบุ เป็น พฤติกรรมที่ มีความผิดร้ายแรง ต้องโดนภาคทัณฑ์ และไม่ผ่านการประเมิน ในภาคเรียนนั่นๆ เพราะ ความหลากหลายทางเพศ นั้น

คือ ความเป็นมนุษย์ มีคุณค่าและศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับเพศชาย หญิง หาใช่พฤติกรรมที่เบี่ยงเบน วิปริตผิดแปลก จนท่าน ต้องออกแบบประเมินให้นักเรียนเหล่านี้ กลายเป็นผู้กระทำผิดร้ายแรง/โดนภาคทัณฑ์/ไม่ผ่านประเมิน แต่มันคือ ความเป็นมนุษย์ ความเป็นอัตลักษณ์ เพศสภาพ การแสดงออก เพศวิถีและรสสนิยมทางเพศ ที่นักเรียนแต่ละคนมีสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตนเองที่ แสดงเจตน์จำนงค์ของตนเองออกมา

ซึ่งทุกคนควรให้ความเคารพในสิทธิของนักเรียนแต่ละคน ไม่ใช่ออกแบบประเมิน กดทับและลดทอนคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนที่มีความหลากหลายทางเพศเช่นนี้ เพียงเพราะเค้าเหล่านี้มิได้ประพฤติตามเพศกำเนิด หรือตามความคิดความเชื่อ ความคาดหวังของสังคมเท่านั้น…. ขออธิบายเพิ่มเติมให้ ผู้อำนวยการ ผู้บริหารและครูทุกท่าน ทราบว่า 1.องค์การอนามัยโลก

หรือ WHO ประกาศแก้ไขคู่มือวินิจฉัยและจัดประเภทของโรคระหว่างประเทศ หรือICD 10 (เมื่อ17 พ.ค.2533 )ได้ถอดถอนคนรักเพศเดียวกันออกจากความเจ็บป่วยทางจิตออกด้วย ว่าคนรักเพศเดียวกันไม่ใด้เจ็บป่วยทางจิต. 2.องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศแก้ไขคู่มือวินิจฉัยและจัดประเภทของโรคระหว่างประเทศ

หรือ ICD ฉบับล่าสุดที่เรียกว่า ICD-11 (18มิ.ย.2561)ว่า การมีเพศสภาพไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดไม่ถือว่าเป็นอาการป่วยทางจิต โดยการที่เพศสภาพไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิด ได้ถูกลบออกหมวด ‘ความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรม’ และย้ายไปอยู่ในหมวด ‘กรณีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางเพศ’ แทน

3.รัฐธรรมนูญ มาตรา27 กล่าวว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกันชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกันการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม

หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม.4.ประเทศไทยมี พรบ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พศ.2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 9 กันยายน ปี พ.ศ.2558

5.กระทรวงศึกษาธิการได้มีการการเพิ่มเติมแก้ไขตำราแบบเรียนสุขศึกษาและพลศึกษาครอบคลุมตั้งแต่ชั้นป.1 จนถึงม.6 ทั้งหมด 12 ชั้นเรียน ในส่วนที่เรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศทุกมิติ ตอนนี้สมบูรณ์แบบ 100% พร้อมใช้ในเทอมการศึกษาใหม่ นี้คือปี2562 แล้ว (ประกาศวันที่17พค.2562)

6.เรามีปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ที่เป็นกฏหมายจารีตที่สำคัญที่สุดด ซึ่งประเทศต่างๆ จำต้องเคารพต่อหลักการสิทธิมนุษยชนที่ได้ตราไว้ในปฏิญญาฉบับนี้ โดยที่ปฏิญญาฉบับนี้ยังเป็นพื้นฐานสำคัญของสนธิสัญญาหรือกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆอีกหลายฉบับ ดังนั้น ผู้อำนวยการและผู้บริหาร จะต้องรีบปรับปรุง แก้ไข ตัดคำว่า “เบี่ยงเบนทางเพศ” ออกจากแบบประเมินนี้ทันที

ตอนนี้หลักฐานพร้อม ผู้เสียหายพร้อม #คณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ #พรบความเท่าเทียมระหว่างเพศ #คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน พร้อมขอบพระคุณคะ ศิริศักดิ์ ไชยเทศ นักกิจกรรมอิสระด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อคนที่มีความหลากหลายทางเพศและพนักงานบริการ ”