‘แตงโม นิดา’ โพสต์ถึง ‘ต่าย มนัสนันท์’ แล้ว

บันเทิง

จากข่าวที่นักแสดงตัวประกอบอย่าง “ต่าย มนัสนันท์” ที่เมื่อล่าสุดนั้นพบว่าเธอนั้นมีสภาพที่ไม่เหมือนกับดาราคนสวยในอดีต ผิวพรรณของเธอนั้นดำคล้ำ ผอมแห้ง ผมนั้นก็ถูกตัดเป็นทรงสกิลเฮด เธอชอบนั่งอยู่บริเวณข้างถนน ขอเงินที่เดินผ่านไปมาซื้อข้าวกินประทังชีวิตพอภาพนี้ได้เผยแพร่ไปในโลกโซเชียลทุกคนก็ต่างเห็นใจไม่อยากให้ซ้ำเดิมเธอและอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือรับผิดชอบเธอ

แต่เมื่อล่าสุด นาง อุษา จันทร์กัด อายุ 52 ปี ซึ่งเธอคนนี้เป็นแม่ของอดีตนักแสดงตัวประกอบเธอได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่าลูกสาวของเธอนั้นเรียนจบชั้น ปวช. และด้วยความที่ลูกของเธอเป็นคนที่หน้าตาดีจึงทำให้ต่ายนั้นได้ถูกทาบทามไปนักแสดงจนชีวิตของต่ายนั้นสุขสบายแต่เมื่อต่อมานั้นต่ายไม่ค่อยมีงานในวงการบันเทิงต่ายจึงตัดสินใจลาวงการและตอนนี้ต่ายมีลูกสองคนแล้วอายุ 8 ขวบกับ 6 ขวบ

เธอยังบอกอีกว่าสิ่งที่ทำให้ชีวิตของลูกเธอนั้นพลิกผันก็คือต่ายนั้นมีอาการที่ไม่ปกติต่ายใช้ชีวิตเร่ร่อนมาโดยตลอดกลางคืนนั้นก็ต่ายก็มักจะออกไปอยู่ข้างทางและโรงพักอยู่เสมอทุกวันนี้เธอเป็นห่วงลูกมากต้องคอยออกตามหาอยู่เสมอเธอยังบอกอีกว่าตอนนี้อยากได้เงินไปรักษาลูกเพื่อให้ลูกได้กลับมาใช้ชีวิตปกติส่วนทางด้านของ ต่าย มนัสนันท์ เจ้าตัวนั้นยังคงปฏิเสธอยู่ตลอดเวลาว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไรและยังจำเพื่อนในการอย่างแตงโมได้ร่วมถึงเพื่อนนักแสดงคนอื่นๆตอนนี้เธอนั้นอยากจะหายจากอาการนี้เร็วๆเพื่อที่จะกลับไปเล่นภาพยนต์อีกครั้ง

แต่เมื่อล่าสุดที่ผ่านมานั้นนางเอกอย่าง “แตงโม นิดา” ได้ออกมาโพสต์ภาพของ “ต่าย มนัสนันท์” ลงในไอจีส่วนตัวของเธอโดยเธอนั้นได้ระบุข้อความว่า “ไม่รู้ระหว่างทางเธอเจอไรมาบ้าง ไม่เป็นไร…เราไม่สนใจตอนนี้เป็นห่วงมาก จะพยายามช่วยเท่าที่จะทำได้…ยัยแฝด”

นางเอกสาวอย่าง “แตงโม นิดา” ได้เปิดใจว่าเธอนั้นรู้จักกับเพื่อนคนนี้มาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าวงการช่วงนั้นเป็นช่วงเน็ตไอดอลยุคแรกๆซึ่งเธอยังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่เลยตอนนั้นไปแคสค์งานก็เลยได้รู้จักกับต่ายแต่ต่ายกับโมสมัยนั้นกับหน้าเหมือนกันแล้วหลังจากนั้นก็ต่างคนต่างเข้าวงการเคยเห็นต่ายเล่นหนังอยู่สักพักหนึ่งก็หายไปซึ่งตอนนั้นโมก็ได้เข้าวงการเต็มตัวเลยไม่ค่อยได้เจอกับต่ายก็คิดว่าต่ายคงจะอยู่สุขสบายเลยไม่ได้ถามหาเบอร์หรือถามคนอื่นว่าต่ายนั้นเป็นอย่างไงบ้าง

มารู้ว่าเพื่อนของเราลำบากตอนไหนคะ?”

เมื่อก่อนหน้านี้เคยเห็นข่าวว่าโดนจับเพราะไปขโมยของตอนนั้นก็ตกใจว่านั้นมันเพื่อนเรานี่หน่าแต่ก็ยังไม่ทันที่จะได้ติดต่อสอบถามอะไรสักพักหนึ่งข่าวนั้นก็หายไปแต่ดูเหมือนว่ารอบนี้จะหนักกว่าเดิมเพราะเราเห็นภาพก็่รู้สึกว่าเพื่อนเรานั้นดูแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำถึงกับขนาดไปนั่งขอทานเลยถึงกับช็อกเหมือนกันไม่คิดว่าเพื่อนที่เรารู้จักจะมาเป็นแบบนี้ตอนนี้ก็ยังห่วงอาการของเพื่อนที่สุดคะ”

ถ้ามีโอกาสอยากที่จะไปเจอเพื่อนไหม

“อยากมากคะ แต่ก็ไม่รู้จะติดต่อกับเขาอย่างไรเท่าที่เราได้อ่านข่าวนั้นเหมือนกับเพื่อนบอกว่าเขานั้นเลือกเส้นทางผิดโมคิดว่านั้นเป็นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนก็รู้สึกว่าสังคมนั้นทำให้เพื่อนเราเป็นแบบนี้หรือเปล่าเหมือนกับว่าเพื่อนจะกลับคืนสู่สังคมอยากหรือเปล่าจึงทำให้เพื่อนเราต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้เพราะเชื่อว่าทุกคนนั้นคงที่จะไม่อยากเป็นแบบนี้หรอกแต่สำหรับโมนั้นไม่อายเลยที่จะบอกใครต่อใครว่าคนนี้นั้นเป็นเพื่อนอยากช่วยเหลือมากอยากพาไปหาหมอคะ”

อยาให้เพื่อนกลับเข้าสู่วงการบันเทิงไหม?

“จริงๆก็ไม่อยากคะเพราะว่าเพื่อนเรานั้นยังไม่พร้อมต่อให้เขารักษาได้แต่ถ้ากลับเข้ามาในวงการก็จะถูกบีบบังคับให้ไปเป็นเหมือนเดิมอีกเพราะว่าคนที่ถูกตัดสินว่าเป็นบ้าไปแล้วคงกลับมาได้ยากแล้วยุคสมัยนี้การอยู่ในวงการบันเทิงนั้นมันน่ากลัวเกิดเรื่องดราม่ากันได้ง่ายๆถ้าเกิดว่าตั้งรับไม่ได้มันก้จะไปกันใหญ่และเราไม่รู้ด้วยว่าจิตใจข้างในของเขานั้นมันอ่อนไหวขนาดไหนที่สำคัญคงต้องให้โอกาสและกำลังใจกันมากๆคะ”

ขอบคุณข้อมูล:melonp.official

เรียบเรียงโดย:setup999

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น