แต๊งค์ เผยอีกมุมของ กระติก ที่สังคมมองผิดไป

บันเทิง

เรียกได้ว่ายังคงเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตจับตามองสำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของนักแสดงสาวสวยมากฝีมืออย่าง แตงโม นิดา ที่ประสบอุบัติเหตุพลักตกกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอีกหนึ่งคนที่พยามช่วยค้นหาความจริงคือหนุ่ม  แต๊งค์ พงศกร ที่ถึงแม้ว่าจะโดนขู่อยู่บ่อยครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่กลัวค่ะ

ล่าสุด แต๊งค์ ได้ออกมาเปิดใจถึงคดีแตงโมผ่านทางรายการ เป็นเรื่องใหญ่ ที่มีพิธีกรมากฝีมืออย่าง อั๋น ภูวนาท เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมีบางช่วงบางตอนพูดถึงกระติกว่า

คุณเคยเป็นคนสนิทแตงโม ช่วงเวลาหนึ่งยาวนานพอสมควร รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีกับทั้งแตงโม และกระติกถือว่าสนิทมั้ยกับกระติก?

“ย้อนกลับไปประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ปี 52-53 ผมคบคุณแตงโม ช่วงนั้นได้ไปเจอ รู้จักคุณกระติกตั้งแต่ ตอนนั้นเขาอยู่ด้วยกัน ในคอนโดเดียวกัน เป็นรูมเมทกัน ผมก็สนิทมักคุ้น  รู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องนิสัยใจคอเป็นอย่างดี ฉะนั้นเรื่องคดีหลังเกิดเหตุผมแยกเป็นประเด็นว่าอะไรบ้างที่ผมโกรธคุณกระติก อะไรบ้างที่ผมเชื่อ และอะไรบ้างที่ผมไม่เชื่อ”

กระติกในมุมมองแต๊งค์เป็นอย่างไง?

“เราต้องแบ่งเป็นประเด็นก่อน เรื่องที่ผมโกรธน่าจะเป็นเรื่องตั้งแต่คืนแรก ที่คุณแตงโมตกไปแล้ว เขาไม่ควรทิ้งทำไมไม่อยู่ช่วย ไม่อยู่ให้ข้อมูล หรือดึงจิกคนบนเรือให้อยู่ตรงนั้น คอยให้ข้อมูล คอบช่วยกัน

ทำไมหลบกับไปเตี๊ยมเรื่องราว หลบไปอยู่ที่อื่น หนีหน้านักข่าวกันคนอื่นๆ ไม่ให้นักข่าวเข้ามาทำข่าว ที่นี้มาในส่วนบางเรื่องที่สังคมมองเขาผิดไป เช่นคนมองว่าพยายามฆาตกรรมหรือเปล่า เพราะมีการหลอกไปรับงานเอ็นไหม อันนี้ผมเชื่อมั่นกระติก จากที่รู้จักกันมานานกระติกไม่ทำร้ายแตงโมอย่างนี้แน่นอน”

เขาเป็นเพื่อนที่รักกันมั้ย?

“ตัวกระติกเองเป็นเพื่อนที่รักแตงโม เขารักแตงโม ก่อนเกิดเหตุเขารักกันแน่นอน เขาไม่ทำร้ายแตงโมแน่ ก่อนเกิดเหตุนะ แต่หลังเกิดเหตุเขาเปลี่ยนไปเพราะอะไรไม่รู้”

หลังเกิดเหตุรู้สึกว่าเขาเป็นคนละคนกับที่เรารู้จักหรอ?

“ใช่มันเกิดเหตุขึ้นแล้ว ด้วยความที่เขากลัวอะไรบางอย่าง ทำให้เขาไม่พูดความจริงทั้งหมด อันนี้ผมมั่นใจ”

ได้คุยกับเขาไหมหลังเกิดเหตุ?

“ได้คุยแต่เป็นวันแรกที่คุณแตงโมตกเรือ ยังไม่พบร่าง หลังจากนั้นไม่คุยอีกเลย เพราะเรารู้แล้วว่าเขาไม่พูดความจริงแน่ กับเรารอบแรกผมได้ฟังก่อนสื่อทุกสื่อ ได้ฟังก่อนทุกคน เขาก็พูดกับผมว่าคุณแตงโมไปทำธุระ

ไปฉี่ท้ายเรือ ตกไป ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าตกไปตอนไหน อะไรยังไง แบบนี้ ต่อมาเขาก็พูดกับสื่อแบบนี้ เขาพูดกับนักข่าวทุกคนแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องพูดกับคนๆ นี้แล้ว”

ขอบคุณข้อมูล:รวมหัว ทีวี