จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่คลี่คลายยังคงส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอน ทำให้นักเรียนไม่สามารถไปเรียนได้ตามปกติ ต้องขายการเปิดเทอมภาคเรียนที่1 ของปีการศึกษา 2563 ออกไป
เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ในระหว่างนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีนโยบายให้โรงเรียนต่างๆ ทั้งสังกัดของภาครัฐ และภาคเอกชน จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งก็ได้มีการทดลองเผยแพร่บทเรียนออนไลน์ผ่านทีวีดิจิทัลให้เด็กได้เรียนรู้กันแล้ว
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่วันที่สองของการเรียนออนไลน์ กับมีเรื่องสุดสะเทือนใจ ของครอบครัวที่มีทุนทรัพย์ไม่เพียงพอที่จะหาเน็ต หาทีวี มาให้ลูกได้เรียนที่บ้านได้ ซึ่งบ้านหลังหนึ่งในหมู่ที่ 2 ตำบลจอเบาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
บ้านของนางอาสือนะห์ ลอลิดี อายุ 49 ปี สภาพฝาบ้านนั้นผุพังเป็นรู ภายในบ้านไม่มีแม้กระทั้งทีวีตู้เย็น ซึ่งนางอาสือนะห์และสามี มีอาชีพรับจ้าง ทำยางในหมู่บ้าน รายได้ต่อคนตกวันละ50-100 มีลูกทั้งหมด 6 คน คนโตแต่งงานแล้ว
อีก 5 คนยังเรียมัธยมและอนุบาลอยู่ ครอบครัวลำบากมาก ต้องทำยางเก็บเงิน เอาไปจ่ายค่าเน็ต เพื่อให้ลูกได้เรียนออนไลน์เหมือนกับเพื่อนๆ คนอื่นเขา นางอาสือนะห์ กล่าวทั้งน้ำตาว่าอยากมีงานประจำ เพื่อส่งลูกเรียนสูงๆ บางวันไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน
ยิ่งวันไหนฝนตกเข้าสวนยางไม่ได้ ก็จะไม่มีเงินให้ลูกเลยสักคน ซึ่งโชคดีที่ลูกเข้าใจและไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพ่อแม่ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าเห็นใจสุดๆ ไปเลยนะค่าา ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวเน็ตก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์กับนโยบายการเรียนออนไลน์ของรัฐบาลกันเป็นอย่างมาก
เพราะคนเรานั้นต้นทุนไม่เท่ากัน คนที่มีก็รอดตัวไป ส่วนคนที่ไม่มีก็ต้องดิ้นรนเดือดร้อนหาเอาเอง ยิ่งช่วงนี้โควิด-19 กำลังระบาด ส่งผลให้หลายๆ คนนั้นตกงาน ทำให้ไม่มีรายได้ จึงไม่มีเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนออนไลน์กับกับลูกๆ หลานๆ
