ดราม่าเดือด เมื่อในโซเชียลได้มีการโพสต์ภาพหนังสือจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เรียกเงินคืนโครงการรัฐ 17 ล้านบาทต้องคืนภายใน 30 วัน โดยเฟซบุ๊กของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ได้ออกมาโพสต์ระบุว่า ” เราชนะ! ผู้ประกอบการร้านค้าหลายราย โดนหนังสือเรียกจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ให้ “คืนเงิน” โครงการเราชนะ
ยอดที่โดนเรียกคืนสูงสุด ถูกนำมาโพสต์ ระบุ 17 ล้านบาท หนังสือจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แจ้งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะให้คืนเงิน ระบุ “เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตาม
หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ และไม่ได้จัดส่งเอกสารชี้แจงโต้แย้งมาภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามความยินยอมที่ได้ให้ไว้ขณะเข้าร่วมโครงการฯ ให้คืนเงินภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือนี้”
“หากไม่เห็นด้วย สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วัน ทั้งนี้หนังสือของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ลงวันที่ 14 กันยายน 2564” ผู้ประกอบการแต่ละรายก็จะถูกเรียกเงินในจำนวนที่แตกต่างกันไป ที่ปรากฎออกมามีตั้งแต่หลักแสนไปถึงหลักล้าน และที่สูงสุดที่นำมาโพสต์คือ 17 ล้านบาทเศษ
ร้านค้า ผู้ประกอบการที่โดนเรียกเงินคืนจากรัฐ มีรายงานว่าส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะ ร้านค้าที่รับสแกนแล้วแลกเป็นเงินสด โดยหักค่าธรรมเนียม 10% และ กรณีร้านค้าออนไลน์ที่รับสแกนข้ามจังหวัด ”
จากนั้น สรยุทธ ก็ได้ออกมาเผยคำชี้แจงจาก โฆษกรัฐบาลถึงกรณี เรียกเงินคืนโครงการรัฐ “เราชนะ” จากผู้ประกอบการ #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ กรณีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ให้คืนเงิน เนื่องจากไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการฯ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการ “เราชนะ” ที่มีการเรียกเงินคืนนั้น เป็นกรณีที่ผิดเงื่อนไขและกฏเกณฑ์ และบางกรณีศาลตัดสินแล้วว่าผิด ซึ่งวันนี้ สศค.จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนเข้าใจ
“ที่ต้องเรียกเงินคืนเพราะเป็นเงินแผ่นดิน รัฐบาลตั้งใจเยียวยาช่วยเหลือประขาชน บางรายเคลื่อนไหววันเดียว 7 พันกิโลเมตร ผิดปกติชัดเจน” นายธนกร กล่าวว่า ประชาชนกว่า 40 ล้านคนพอใจกับโครงการนี้ แต่มีที่ทำผิดประมาณ 2 พันกว่ารายเท่านั้น ”
ขอบคุณข้อมูล : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
