เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่าน นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 เห็นชอบให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โดยจ่ายเงินให้แก่ครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับหน่วยงานของรัฐ
รายละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) จำนวน 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนการจ่ายเงินดังกล่าว ธ.ก.ส. จะรับข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ในกรณีเกษตรกรมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. แล้ว สามารถใช้บัญชีเงินฝากเดิมได้ โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่
ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งเลขที่บัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารอื่น โดยเตรียมหมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารอื่นจากนั้นเข้าเว็บไซต์ “เยียวยาเกษตรกรดอทคอม” ซึ่งมีเกษตรกรบางส่วนได้แจ้งบัญชีเงินฝากธนาคารอื่นแล้ว ทั้งนี้ เป็นเพียงการรับแจ้งช่องทางในการโอนเงินเท่านั้น
ยังไม่ได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนของการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ ของรัฐ เช่น การเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระ (เราไม่ทิ้งกัน) ข้าราชการบำนาญ ประกันสังคม หรือโครงการอื่น ๆ กรณีเกษตรกรที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ซึ่งหมดเขตวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
จะไม่พบข้อมูลในเว็บไซต์ เนื่องจากข้อมูลที่กระทรวงเกษตรฯ จัดส่งให้ ธ.ก.ส. กลุ่มเป้าหมายแรกจำนวน 8.35 ล้านราย เป็นข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพียง ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 ดังนั้น เกษตรกรจะสามารถแจ้งบัญชีเงินฝากธนาคารอื่น หลังจากได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนตามเงื่อนไขของโครงการ โดยเริ่มแจ้งได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2563
และ ธ.ก.ส. จะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีกลุ่มเป้าหมายที่ 2 พร้อมกับเกษตรกรที่มีบัญชี ธ.ก.ส. ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป นอกจากนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวยังสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ โดยเกษตรกรที่ได้รับเงินกลุ่มแรกกว่า 8 ล้านราย สามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่วันที่15 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
“โครงการดังกล่าว ธ.ก.ส. จะเร่งดำเนินการภายใต้การควบคุมการแพร่กระจายของโรค COVID-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งนอกจากเกษตรกรไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. แล้ว ยังสามารถใช้บัตร ATM ของ ธ.ก.ส. และของธนาคารอื่น ๆ ถอนเงินจากตู้ ATM ได้ทุกธนาคาร หรือใช้โทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile ถอนเงินโดยไม่ใช้บัตร ATM ที่ตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ได้อีกด้วย” นายอภิรมย์กล่าว
ขอบคุณข้อมูล:ประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร , สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station
เรียบเรียงโดย:setup999