จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่ในประเทศไทยตอนนี้พบผู้ติดเชื้อทุกวัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อกว่าสองหมื่นรายเลยทีเดียวในขณะเดียวกันช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมายอดผู้ติดเชื้อลดลงเหลือหมื่นกว่าๆถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทั่วโลกรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตำ่กว่าความเป็นจริง”
ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมที่รายงานทั้งโลกน้อยกว่าความเป็นจริง 10 เท่า นักวิทยาศาสตร์ด้านระบาดวิทยาให้ความเห็นว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รายงานเหมือนกับยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้รับการตรวจถึงแม้จะมีอาการ และมีคนอีกมากมายที่ไม่มีอาการ ไม่ได้รับการตรวจ
จำนวนนี้อยู่ใต้น้ำมองไม่เห็น มากกว่ายอดจำนวนผู้ติดเชื้อภูเขาน้ำแข็งที่เรามองเห็น ขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งโลกยืนยันแล้ว 215 ล้านคน แท้จริงแล้วอาจจะมีผู้ติดเชื้อมากถึง 2,150 ล้านคน หรือประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรโลก การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไป
มีหน่วยงาน 4 แห่งที่ทำแบบจำลอง คำนวณหาตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันที่แท้จริงของแต่ละประเทศ อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา หลายหน่วยงานเห็นพ้องต้องกันว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงของสหรัฐฯน่าจะสูงกว่าตัวเลขที่รายงานประมาณ 4 เท่า
จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่รายงาน 39 ล้านคน ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะเป็น 156 ล้านคนซึ่งก็ยังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ มีการทำกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯรายวันที่คำนวณสูงกว่าที่รายงานทุกวันประมาณ 4 เท่า (ดูกราฟ)
สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน บางวันที่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสะสม 2 หมื่นราย ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่คำนวณ ดูในกราฟสูงถึง 1.2 แสนราย หรือมากกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันขณะนี้ 1.13 ล้านคน เป็นไปได้ที่ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจสูงถึง 9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 13 ของประชากรไทย
คนไทยไม่ต้องตกอกตกใจเมื่อเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงถึง 9 ล้านคน ควรจะดีใจด้วยซ้ำที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดไปแล้วตั้ง 9 ล้านคน โดยที่คนเกือบ 8 ล้านคนที่ติดเชื้อ ไม่มีอาการหรืออาการน้อย คนที่ติดเชื้อหายแล้วจะไม่รับเชื้อสายพันธุ์ที่กำลังระบาดขณะนี้
และจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีก นอกจากนี้แล้วยังทำให้คนไม่ต้องหวาดกลัวกับโรคโควิด-19 มากเกินไป เพราะโรคนี้อัตราตายหรือสัดส่วนการเสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อจะลดลงถึง 8 เท่า แทนที่อัตราตายจะเป็นคนเสียชีวิต 10,587 ราย หารด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 1.13 ล้านคน หรือร้อยละ 0.9 จะเปลี่ยนเป็น 10,587 ราย หารด้วย 9.0 ล้านคน หรือร้อยละ 0.12
เราคงต้องอยู่กับโรคโควิด-19 ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ถ้าคนไทยกลุ่มเสี่ยงคือคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนให้เร็วที่สุดทุกคน และตามมาด้วยคนทั่วไป เมื่อติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนจะป่วยไม่รุนแรงถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต
โรคนี้ก็จะเป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่ เราต้องเรียนรู้อยู่กับมัน ไม่ต้องกลัวมัน อยู่อย่างมีสติ ป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ ปีหน้าคงมียาต้านไวรัสเชื้อโควิด-19 ตัวใหม่ให้ทุกคนได้ใช้ และวิถีชีวิตก็คงจะกลับมาใกล้เคียงกับภาวะปกติมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูล : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC