สถานการณ์การแพร่ระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19ทำให้ก่อนหน้านี้คุณหมอหลายๆท่านได้ออกมาเตือนหวั่นการระบาดหนักระลอก 5 โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ก็ได้ออกมาเตือนระบุว่า วันนี้สถานการณ์ผู้ป่วยใหม่ทั่วประเทศยังทรง ๆ ตัว
ไม่ยอมลดลงตามกราฟขาลงของเวฟ 4 อย่างที่ควรจะเป็น โดยมีผู้ป่วยใหม่ทั่วประเทศ 16,031 คน และเสียชีวิต 220 คน ตัวเลขผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยของสัปดาห์นี้คือหมื่นสี่พันห้าร้อยคน ความหวังที่จะได้เห็นจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันลดลงต่ำกว่าหมื่นคนยังเหลือโอกาสอีกแค่สัปดาห์เดียว คือไม่เกินกลางเดือนกันยายนนี้เท่านั้นนะ กลางเดือนกันยายน ช่วง 15 – 16 กันยายน
ตัวเลขรายวันอยู่แถวๆ ไหน ก็จะกลายเป็นตัวเลขต่ำสุดของเวฟ 4 นี้แล้วละ แล้วมันก็คงจะทรง ๆ อยู่ประมาณนั้นไปเรื่อย ๆ จนถึงวันที่กราฟจะเริ่มผงกหัวขึ้น ซึ่งก็อาจจะเป็นสัญลักษณ์การมาถึงของเวฟใหม่อีกรอบนึง ภาวนาร่วมกันว่ามันจะมาหาพวกเราช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะ
สถานการณ์ผู้ป่วยในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์สามสี่วันนี้ ยังเป็นไปในเทรนด์ขาลงของเวฟนี้อยู่ ตัวอย่างหนึ่งที่แสดงปรากฏการณ์นี้คือ สิบวันติดต่อกันจนถึงวันนี้แล้วที่เราไม่มีบุคลากรในโรงพยาบาลติดเชื้อโควิดเลย จำนวนผู้เสี่ยงสูงที่มาตรวจ Swab และมีผลเป็นบวกสามวันย้อนหลังก็ค่อนข้างต่ำ เช้าวันนี้มีผลบวก 15 ราย จากการตรวจกลุ่มเสี่ยง 112 ราย
เมื่อวานมีผลบวก 14 รายจากการ Swab 122 ราย และเมื่อวันอังคารที่ 7 มีผลบวก 29 รายจากการตรวจ Swab 106 ราย ยอดรวมทั้งสัปดาห์นี้คือ มีการตรวจ Swab กลุ่มเสี่ยงสูงไป 413 ราย มีผลบวก 73 รายหรือคิดเป็น 17.67% เท่านั้น เมื่อเทียบกับ 30-40% ที่มีผลบวกจากการ Swab ในช่วงเดือนสิงหาคม
จำนวนผู้ป่วยรวมในโรงพยาบาลหลักของเราเช้านี้เหลืออยู่ที่ 68 เตียงจากประมาณ 100 เตียงสีแดงกับสีเหลืองที่เรามีอยู่ ขณะนี้เราพยายามย้ายผู้ป่วยเคสเหลืองทั้งหมดที่มีอยู่ในรพ.สนามให้กลับมารักษาที่รพ.หลัก เพื่อลดภาระโรงพยาบาลสนามในการดูแลผู้ป่วยสีเหลืองลง จำนวนผู้ป่วยที่พักค้างให้เราดูแลที่โรงพยาบาลสนามก็ลดลงโดยตลอด เมื่อคืนนี้มีผู้ป่วยเหลืออยู่กับเราที่ 155 คน โดยเฉลี่ย
เมื่อหักจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว และออกจากโรงพยาบาลสนามแล้วบวกกับจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่รับเข้ามาประมาณวันละ 10 – 20 คนแล้ว จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามขณะนี้ จะลดลงราววันละ 10 คนตลอดทุกวัน เหตุผลคงเป็นอย่างที่เคยอธิบายไว้ว่า ผู้ป่วยใหม่ 90% เป็นผู้ป่วยไม่มีอาการ และถูกรับเข้าไปใน Home Isolation และ Community Isolation
ที่มีอยู่ทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ เหลืออีกเพียงประมาณ 10% ของจำนวนผู้ป่วยใหม่เท่านั้น ที่เป็นเคสเหลือง – แดง และต้องส่งเข้ามาในระบบโรงพยาบาล เรื่องนี้คงเป็นข่าวดีที่ทำให้สบายใจขึ้นว่า สังคมเริ่มยอมรับระบบ Home Isolation และทำให้ศักยภาพของระบบสาธารณสุขของเราในการจัดการกับผู้ป่วยโควิดดีขึ้นโดยภาพรวมด้วย
ที่ Home Isolation ของเรา คนไข้แอคทีฟก็ลดลงอยู่เรื่อย ๆ ขณะนี้เรามีเคสแอคทีฟ เหลืออยู่ในความดูแล 153 คนเท่านั้น ขณะที่จำนวนผู้ป่วยสะสมในระบบนี้มีจำนวนรวม 2,249 คน สำหรับ 73 วันที่ได้ดำเนินการมา เราเชื่อว่าแนวโน้มที่มีผู้ป่วยลดลงในระบบนี้จะยังคงอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองสัปดาห์ เรื่องนี้ก็คงเป็นข่าวดีเล็ก ๆ ได้อย่างน้อยก็ในระยะหนึ่งหรือสองสัปดาห์จากนี้ไป
ด้วยเหตุผลเรื่องจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาในระบบโรงพยาบาลลดลง เราจึงตัดสินใจปรับวันประชุม warroom ของทุกระบบของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์จากสัปดาห์ละสามวันกลายเป็นสัปดาห์ละสองวัน คือในเช้าวันจันทร์และวันพฤหัส ตามไปด้วย และในการประชุมวอร์รูมวันนี้ พวกเราตัดสินใจกันว่า ในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าคือตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนเป็นต้นไป
เราจะปรับลดขนาดการเตรียมพร้อมรับโควิดของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ลงในหลายระบบ เริ่มจากโรงพยาบาลสนาม 470 เตียง จะปรับลดขนาดเป็นโรงพยาบาลสนาม 200 เตียงตั้งแต่ 16 กันยายน และ Home Isolation ซึ่งเราใช้บุคลากรทางการแพทย์ทำงาน Telemedicine เต็มเวลาราว 50 คน ผลัดเวรกัน เราจะลดจำนวนบุคลากรลงครึ่งหนึ่ง ตั้งแต่ 16 กันยายน เช่นกัน
เช่นเดียวกับที่ศูนย์ธรรมศาสตร์ธรรมรักษ์ซึ่งเราเตรียมเตียงไว้ช่วยดูแลผู้ป่วยโควิดแบบประคับประคอง (Palliative Care) โดยมีศักยภาพรับได้ถึง 20 เตียง ก็จะปรับลงใน Mode Stanby ให้เหลือเพียง 5 เตียงโควิดในวันที่ 16 กันยายน เป็นต้นไป ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ เป็นการปรับตัวเพื่อรองรับขาลงของโควิดเวฟ 4 อย่างที่เห็นเป็นอยู่ แต่พวกเราที่นี่มีความเชื่อร่วมกันว่า ช้าหรือเร็วเวฟที่ 5 ซึ่งจะมีขนาดของคลื่นสูงกว่าเวฟ 4 มาก จะมาถึงพวกเราแน่ ๆ
ดังนั้น เราจะใช้ช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดลดลงนี้ ไปกับการเตรียมปรับปรุงซ่อมแซมป้อม ค่ายคู ประตู หอรบ และจัดเตรียมยุทโธปกรณ์และกำลังผู้คนให้พรรคพร้อม เมื่อใด -ซึ่งคิดว่าอีกไม่นานนัก-ที่มีสัญญาณการเริ่มต้นของเวฟที่ 5 จากการผงกหัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของกราฟแสดงจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวัน พวกเรามั่นใจว่าภายในไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ระบบทั้งหมดของการเตรียมตั้งรับเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิดของเราทุกระบบ
จะกลับมาทำงาน 100% โดยมีศักยภาพและความเข้มแข็งในการรองรับผู้ป่วยโควิดเวฟ 5 ได้ดีกว่าที่เคยเป็นมาในเวฟ 4 อย่างแน่นอน เราสัญญานะ ระบบงานระบบเดียวของพวกเราในเรื่องโควิดที่ทำงานหนักขึ้นในขณะนี้ และมี “ลูกค้า” เพิ่มจำนวนขึ้นตลอด คือศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิตที่ยิม 4 ซึ่งทำงานมาแล้ว 95 วัน และขณะนี้ ได้ขยายศักยภาพไปนัดคิวฉีดวัคซีนถึงวันละกว่าสามพันคนมาหลายวันแล้ว
เราพบว่าผู้มาฉีด Astra ทั้งเข็มสองและเข็มแรกที่นี่ มีผู้มารับวัคซีนโดยเฉลี่ยประมาณ 85% ของคิวจองในแต่ละวัน เช่นในวันนี้มีคิวเข็มสอง + เข็มแรก 3,228 คิว มีคนมารับวัคซีนมากถึง 2,807 คน หรือคิดเป็น 86.69 % เลยทีเดียว
เรื่องเดียวที่พวกเราเป็นห่วงอยู่ที่นี่ก็คือ ความต่อเนื่องของการได้รับวัคซีน Astra จาก สธ.ผ่านจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมักจะมาไม่ทันจำนวนนัดที่ลงทะเบียนจองคิวไว้ที่ธรรมศาสตร์ และมักจะมีการเสนอให้ฉีดซิโนแวคเป็นเข็มแรกก่อนแล้วค่อยตามด้วย Astra เป็นเข็มที่สอง ซึ่งเราก็แจ้งไปว่า ธรรมศาสตร์ได้ทดลองทำการฉีดไขว้ ซิโนแวค + Astra อยู่บ้าง แต่ก็พบว่า
ผู้ที่จองคิวมาฉีดไขว้เหล่านี้ มารับวัคซีนเพียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง และเกิดปัญหาการต้องเลื่อนคิว และเกิดความสับสนในการจัดลำดับคิวใหม่เป็นอย่างมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องกลับมายืนหลักเดิมที่Astra+Astra ตามที่ ศบค. และสธ.ได้ประกาศให้จองคิวไว้ และเป็นไปตามที่ได้สัญญากันไว้แต่แรก เมื่อมีการเปิดให้จองคิวในระบบ#หมอพร้อม ตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นมาเท่านั้น
และต้องมาคอยลุ้นจำนวนวัคซีนที่บริษัทผู้ผลิตจะส่งมอบให้สธ. และรอติดตามจำนวนที่เราจะได้รับมา ทุก ๆ หนึ่งหรือสองสัปดาห์ตลอด คอยตามลุ้นไปกับพวกเราด้วยนะว่า ปลายเดือนนี้จะมี Astra ส่งมาให้ตามจำนวนที่จองคิวนัดหมายไว้หรือป่าว
ในขณะนี้ เราสามารถยืนยันได้แล้วว่า ท่านที่มีคิวนัดฉีด Astra กับเราอยู่ เราสามารถยืนยันการขยายวันรับวัคซีนเพิ่มได้ จากเดิมที่ได้ยืนยันคิวนัดจนถึง 13 กันยายน วันนี้จะขอประกาศเพิ่มเติมว่า เราขอ Confirm การนัดคิวสำหรับท่านที่มีชื่อจองไว้ที่ยิม 4 จนกระทั่งถึงวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน แล้ว ขอให้ทุกท่านที่มีคิวจองในช่วงเวลานั้นสบายใจได้
วันจันทร์หน้ามาพบกันใหม่ แล้วเราจะรายงานถึงเรื่องศักยภาพและความพร้อมของพวกเราที่เตรียมตัว เตรียมการกันอยู่ในขณะนี้ เพื่อรอเผชิญสถานการณ์เวฟ 5 ให้ทราบว่าพวกเราจะมีความพร้อมรับมือกับสงครามระลอกใหม่นี้อย่างไรบ้าง
ขอบคุณข้อมูล : โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์