ทำเอาเดือดร้อนกันไปหมด สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19ทำให้ส่งผลกระทบหลายด้านมากลามไปจนถึงระบบการศึกษาที่ตอนนี้สถานศึกษาต้องปิดแล้วให้เด็กนักเรียนเรียนออนไลน์กันอยู่บ้าน
โดยงานนี้ทางรัฐบาลก็กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19ให้กับเด็กนักเรียนเพื่อที่จะกลับมาเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ ก็ทำให้ผู้ปกครองบางคนหวั่นกลัวลูกเกิดผลข้างเคียงตามมา
ล่าสุด นพ.ธีระวัฒน์ เหมาะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเปิดเผยว่า เด็กต่างจากผู้ใหญ่ จะให้เขาได้อะไร ที่เขาปลอดภัยที่สุด ทั้งระยะสั้นและยาวจากโควิดและวัคซีน เด็ก 2-18 14/9/64 หมอดื้อ
1- เด็กติดง่าย แต่ตายยาก ถ้าไม่มีโรคประจำตัว
2- แต่ติดแล้วมีปัญหาต่อตามมาได้ แม้เมื่อเชื้อหมดไปแล้ว เช่น การอักเสบในร่างกายระยะยาว พัฒนาการและทางสมอง
3- สรุปต้องฉีดวัคซีน วัคซีนอะไร?
4- วัคซีน mRNA มีความเสี่ยงหัวใจอักเสบแม้ใช้กันแล้วในประเทศตะวันตก แต่ประเทศเหล่านั้นไม่มีวัคซีนเชื้อตาย
5- ความเสี่ยงหัวใจอักเสบ ที่ว่าไม่มากและรักษาได้ถ้ารักษาทัน แต่ตาม ข้อหนึ่ง เด็กตายยากอยู่แล้ว คงต้องคิดความปลอดภัยสูงสุดเป็นหลักด้วย
6- วัคซีนเชื้อตายสองเข็มฉีดเป็นรากฐานเพื่อใช้วัคซีนอื่นต่อ ทั้ง แอสตร้า หรือ mRNA ซึ่งเลี่ยงไปใช้ปริมาณน้อยได้ โดยฉีดเข้าชั้นผิวหนัง เพื่อลดความเสี่ยงอันตราย ด้งข้อ 4
7-แต่ด้วยวัคซีนเชื้อตายเองก็แฝงผลแทรกซ้อนไว้ด้วยดังนั้นจะใช้เป็นการฉีดเข้าชั้นผิวหนัง 0.1 ซีซีทั้งเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สองควรจะเพิ่มความปลอดภัยแต่คงประโยชน์ไว้ได้
และถ้าต้องการได้ผลเร็วฉีดวันที่ศูนย์และวันที่เจ็ดควรจะได้ภูมิคุ้มกันดีขึ้นในวันที่ 14 ถึง 30 หลังจากฉีดเข็มที่สอง และไปต่อ ยอดตามข้อหก หนึ่งเดือนครึ่งถึงสามเดือน
หลังจากฉีดเข็มที่สอง ประเทศจีน ใช้แล้ว ในเด็ก และการศึกษาในผู้ใหญ่ยืนยันแล้วว่าการฉีดเชื้อตาย ชิโนแวค “ต้อง 2 เข็ม” และเมื่อต่อด้วยวัคซีนแบบแอสตร้า จะได้ผลดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูล: ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha