ฮอตและปังไม่ไหลแล้วค่า ก่อนหน้านี้ ไอดอลสาวสวยสุดปังอย่าง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยในรายการ WOODY SHOW ครั้งแรกของประเทศไทยหลังจากที่ได้ปล่อยโซโล่เดี่ยวไป
โดยมีช่วงหนึ่ง ลิซ่า ได้เผยว่า เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่ไม่ได้กลับประเทศสิ่งแรกที่คิดถึงเลยคือคุณพ่อคุณแม่คิดถึงอาหารที่พวกเขาทำให้กิน
และบอกว่าอยากกลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์สิ่งแรกที่จะทำคือกลับไปไหว้คุณตา และอีกหนึ่งสอ่งที่เธออยากทำก็คือไปกินลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์
เพราะที่เกาหลีไม่มีเลยมันเด็ดตรงที่น้ำจิ้มบุรีรัมย์เจ้านั้นมันเด็ดมากๆหาไม่ได้ซึ่งสำหรับตัวเธอจะต้องเป็นเจ้าที่มีน้ำพริกเผาเท่านั้น งานนี้ทำเอาหลายๆคนแห่ตามรอย ลิซ่า กันเป็นจำนวนมาก
ไปกินลูกชิ้นยืนกินที่พูดถึงจนสร้างปรากฏการณ์ ลิซ่า ฟีเว่อร์อีกครั้ง โดยตอนนี้ ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ และต่างจังหวัด เดินทางมาชิมและซื้อลูกชิ้นหมูทอด
กลับไปเป็นจำนวนมาก บางส่วนสั่งซื้อทางออนไลน์ ส่งผลให้ตลาดค้าลูกชิ้นหมูต่างคึกคัก น.ส.ณิชชาวีณ์ ฐิติไชยรังสี อายุ 30 ปี เจ้าของโรงงานลูกชิ้นหมูชื่อ เอส เค ลูกชิ้นหมูบุรีรัมย์
เล่าว่าตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาด ยอดขายลูกชิ้นตกฮวบ เฉพาะโรงงานของตนซึ่งเป็นโรงงานขนาดเล็ก ขายทั้งปลีกและส่งได้เพียงวันละ 200-300 กก.
หลังจากกระแสลิซ่า เข้ามา มียอดสั่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว 3 เท่า โรงงานสามารถผลิตได้วันละ 1,000 กก. แต่มียอดสั่งทั้งในและต่างจังหวัดเพิ่มสูงขึ้นจนผลิตไม่ทัน
กระแสลิซ่า มาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน เพียงข้ามคืนมียอดสั่งทะลุ จึงอยากจะฝากของคุณน้องลิซ่า ที่สร้างกระแสให้ธุรกิจลูกชิ้น กลับฟื้นตัวมาได้อีกครั้งในเวลาอันรวดเร็ว