แมงปอ ชลธิชา หันหน้าทำฟาร์มผักหาเลี้ยงครอบครัว

บันเทิง

ต้องบอกเลยว่าใครหลายๆ คนคงจะรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าตัวเป็นอย่างดี สำหรับ นักร้องลูกทุ่งมากความสามารถอย่าง แมงปอ ชลธิชา โดยเจ้าตัวมีผลงานเพลงที่เป็นรู้จักเป็นจำนวนมาก อาทิ ตามหาสมชาย, ท้ารัก, แมงปอล้อรัก, สาว 16, นางสาวแนนซี่, จอห์นนี่ที่รัก, นักรบนิรนาม, หนูอยากโดนอุ้ม เป็นต้น

ล่าสุด แมงปอ ได้ออกมาเปิดใจขณะร่วมออกบู๊ทขายสินค้าภายในงาน daradaily แบรนด์เนมมือสอง ช้อปของดารา ซีซั่น 3 หลังหันมาเอาจริงเอาจังด้านธุรกิจผักปลอดสารพิษ ภายใต้ชื่อ ฟาร์มผัก งุ้งงิ้ง โดย แมงปอ ชลธิชา เล่าว่า สาเหตุที่เข้ามาลุยธุรกิจตรงนี้เป็นเพราะผลกระทบจากพิษโควิด-19

เนื่องจากงานแสดงคอนเสิร์ตลดน้อยลงจนส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงดูครอบครัว ถึงขนาดต้องยอมตัดใจหอบทองคำที่สะสมไว้กว่า 30 บาท ไปขาย กระทั่งภายหลังเริ่มศึกษาเรื่องการปลูกผักทำฟาร์มจากพี่ที่รู้จัก จึงทำให้สามารถกลับมาตั้งตัวและทำเป็นธุรกิจเลี้ยงดูครอบครัวในปัจจุบัน

“วันนี้นำเอาผักสดมาขายค่ะ เป็นผักสดที่ปลูกเอง ทำฟาร์มเอง ก็จะเป็นผักปลอดสารพิษค่ะ จริงๆ แล้วธุรกิจตัวนี้เพิ่งจะเริ่มได้สักประมาณ 1 ปี เป็นผลมาจากโควิด คือต้องบอกตรงๆ ว่า

ถ้าเป็นงานอื่นสำหรับเรามันก็คงเป็นอะไรที่เริ่มต้นยาก เพราะเราเป็นนักร้องมาตั้งแต่อายุ 16 ดังนั้นเราเลยมองหาจากสิ่งที่เราชอบก่อน ก็เลยมาเริ่มที่การปลูกผัก การเลี้ยงไก่ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้านค่ะ”

ศึกษาเรื่องนี้มานานไหนกว่าจะตัดสินใจลงมือทำจริงจัง ?

“ไม่นานนะคะ คือเรียนรู้มาจากยูทูบ บวกกับพอดีมีพี่ที่รู้จักเขาปลูกอยู่แล้ว เราก็เลยได้มีโอกาสไปเรียนไปศึกษา ซึ่งผลตอบรับตั้งแต่เปิดมาก็ถือว่าดีเลยนะคะ เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามารับผักจากฟาร์มไปขายบ้างแล้ว”

ขนาดของฟาร์มเรากว้างขวางแค่ไหนพอจะบอกได้ไหม ?

“ไม่ใหญ่ค่ะ ใช้เนื้อที่แค่ 1 ไร่ เพราะอย่างที่บอกเราเองก็เพิ่งนะเริ่ม”

ผลตอบรับดีแบบนี้ถือว่าหายเหนื่อยเลยหรือเปล่า ?

“เรียกว่ารู้สึกดีทางใจมากกว่าค่ะ ส่วนเรื่องรายได้เราก็ขอแค่มีพอใช้จ่ายภายในบ้าน ไม่ต้องรวยไม่ต้องกอบโกยอะไรขนาดนั้น และถ้าแฟนๆ คนไหนสนใจอยากมีอาชีพเราก็สามารถให้คำแนะนำได้ สามารถมาเรียนรู้ที่ฟาร์มได้ค่ะ ฟาร์มตั้งอยู่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดอยุธยา”

จากสถานการณ์โควิด ตัวเราเองได้รับผลกระทบยังไงบ้าง ?

“เอ่อ…ก็แย่นิดหนึ่งค่ะ คือปกติเราจะเป็นคนที่ชอบซื้อทองเก็บ แต่พอมาเจอกับโควิดปุ๊บก็คือขายหมดเลย กระทั่งนี่แหละค่ะพออะไรๆ มันเริ่มดีขึ้น เราก็เริ่มซื้อกลับมาเก็บ”

ถึงขนาดขนสมบัติไปขาย ?

“ใช่ค่ะ เรียกว่าขนสมบัติไปขาย คือมันก็หนักเหมือนกัน ด้วยความที่เราต้องดูแลคนในครอบครัว เราก็เลยจำเป็นต้องหาวิธี เพราะอย่างที่ทราบงานร้องเพลงช่วงนั้นเราไม่สามารถทำได้ แต่ตอนนี้ก็เริ่มๆ มีกลับมาบ้างแล้ว มีเจ้าภาพติดต่อมาบ้างแล้ว”

ช่วงชีวิตที่เราต้องขนสมบัติไปขายมันแย่ขนาดไหน ?

“เอ่อ…จริงๆ เราค่อนข้างโชคดีที่เรามีพื้นที่อยู่ที่บ้านในต่างจังหวัด ดังนั้นเรื่องค่าใช้จ่ายมันเลยประหยัดลงไปเยอะ บวกกับพอเราได้เริ่มปลูกผักได้เลี้ยงไก่ มันก็เลยทำให้เรามีของกินใช้แบบที่ไม่ต้องควักเงินจ่ายไปซะหมด”

พอจะระบุได้ไหมว่าทองที่ขายไป ขายไปประมาณกี่บาท ?

“ประมาณ 20-30 บาทได้ค่ะ”

ตอนนี้เริ่มซื้อทองกลับมาเก็บแล้ว ?

“เริ่มซื้อทองกลับมาได้บ้างแล้ว”

ที่บ้านค่าใช้จ่ายเยอะ ?

“มันก็ไม่ใช่ว่าเรามีค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนั้นนะคะ แต่มันเป็นอะไรที่ยิบย่อยมากกว่า บวกกับการที่เรามีครอบครัวมีลูก ถึงแม้ลูกจะเรียนออนไลน์ แต่เราก็ยังต้องจ่ายเทอมอยู่ เรียกได้ว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาเรากลายเป็นคนปลอดหนี้ไปเลย เพราะอะไรที่เราผ่อนอะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน เราตัดออกหมด จนตอนนี้เราไม่มีหนี้เลยค่ะ”

เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรามองไหมว่าต้องใช้ชีวิตให้ประหยัด ?

“เรียกว่าตอนนี้สบายๆ ขึ้นดีกว่าค่ะ เมื่อก่อนเราหาเงินง่าย เราก็ใช้ง่าย แต่ตอนนี้เราระวังมากขึ้น อันไหนไม่จำเป็นเราก็ไม่ซื้อ เราขอใช้ชีวิตแบบสบายๆ กินอิ่มนอนหลับดีกว่า”