ต้องบอกเลยว่าเป็นนักร้องเพลงเพื่อชีวิตผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงคาราบาว สำหรับ ยืนยง โอภากุล หรือที่รู้จักกันดีในนาม แอ๊ด คาราบาว ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมบ้านอีกหลังของเจ้าตัว โดยลูกสาวคนโต เซน ณิชา โอภากุล เผยว่า เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไม่กี่ชั่วโมง ก็ถึงดินแดนอันร่มรื่นภายใต้ชื่อ บ้านไร่กูไม่เบื่อ สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งชื่อนี้พ่อแอ๊ดเป็นคนตั้งเองด้วย
“ตอนแรกบ้านนี้ชื่อร็อกแอนด์โฮมก็ตั้งตามสไตล์ของบ้าน แต่พ่อมาเปลี่ยนทีหลังเป็นบ้านไร่กูไม่เบื่อ เพราะมากี่ทีๆ กูก็ไม่เบื่อเลย บ้านหลังนี้ใกล้กรุงเทพฯ พ่อแอ๊ดเลยมาบ่อย มากับแก๊งฮาร์เลย์ของเขา ส่วนหนูจะชอบมาช่วงหน้าหนาว เวลาเทศกาลที่คนแห่ขึ้นเหนือก็จะมาที่นี้หนาวมากๆ เหมือนกัน
ช่วงหน้าร้อนก็มาชอบอาบแดดมาก มาถึงนอนอาบแดดตรงระเบียงก่อนเลย พักผิวหน่อยก็ลงไปแช่จากุซซี ชอบมากๆ ส่วนหน้าฝนไม่ชอบมา พ่อแอ๊ดใจดีเปิดให้เพื่อนๆ มาพักด้วย อย่างห้องฝั่งขวา ข้างล่างเป็นของน้องชาย ข้างบนเป็นของสองสาว ก็จะไม่ค่อยมีข้าวของส่วนตัวเรามากเท่าไหร่
เพราะเปิดเป็นห้องรับแขกของเพื่อนคุณพ่อด้วย ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องคุณพ่อห้องนี้ถ้าไม่สนิทกันมากจริงๆ ไม่มีใครได้เข้าไปหรอก แต่หนูอยากจะขอคุณแม่ อยากได้ห้องน้องชาย ถ้าคุณแม่ยอม หนูจะตกแต่งใหม่ จะซื้อเฟอร์นิเจอร์มาเพิ่ม”
บ้านหลังนี้ปลูกท่ามกลางแมกไม้ขุนเขา ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 2 ปี เพราะไม่มีการโค่นล้มต้นไม้ใหญ่ บนพื้นที่เกือบ 50 ไร่ จึงเรียกได้ว่าอิงแอบกับธรรมชาติเหมาะสำหรับเป็นบ้านพักผ่อนหย่อนใจ ที่สำคัญที่แห่งนี้สร้างงานเพลงดีๆ ให้กับวงคาราบาวหลายบทเพลง
“ระเบียงตรงนี้ ตั้งใจให้เป็นเหมือนฟร้อนรองรับแขก พ่อแอ๊ดก็นั่งทุกมุมเลย เพราะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่เป็นไม้พ่อเลือกซื้อมาเองหมด บ้านหลังนี้เป็นตัวตนของเขาจริงๆ ไม่มีอะไรที่เป็นหนูเลย อ๋อมีพวกโคมไฟเล็กๆ ดูสวยๆ ขึ้นมาหน่อยหนูเป็นคนซื้อ นอกนั้นพ่อกับแม่ก็จะควงแขนกันไปซื้อ
หรือเวลาไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ไหนเจออะไรที่ถูกใจก็ซื้อมา อย่างโต๊ะไม้ก็ได้มาจากเชียงใหม่ ไหที่ตั้งๆ อยู่ก็ได้มาจากบ้านเชียง (จ.อุดรธานี) บ้านนี้เน้นสร้างด้วยไม้เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นไม้ ของมีน้อยชิ้นแต่ใช้งานได้หมดเลยและถูกใช้บ่อยด้วย สระด้านหน้านี้ก็มีแต่คุณพ่อที่ลงไปว่ายน้ำ
หนูไม่กล้าเพราะน้ำไม่ใสมองไม่เห็นพื้นกลัว เคยขอคุณพ่อสร้างสระว่ายน้ำแต่คุณพ่อบอกว่า สร้างให้แล้วก็ไม่ค่อยมาอยู่ดี หนูเลยคิดว่าจะซื้อเรือแคนูมาไว้พ่ายเล่นจะได้มีกิจกรรมเพิ่ม” ตลอดเวลาที่นั่งๆ เดินๆ ชมบ้าน บรรยากาศปลอดโปร่งมีลมพัดเย็นสบายตลอด
จึงได้สังเกตว่าบ้านหลังนี้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศแค่ในห้องนอนเท่านั้น “เราอุตส่าห์สร้างบ้านในที่แบบนี้ ต้องเปิดให้หมด ต้องซึมซับเอาธรรมชาติ บางวันก็มีลิงลงมาจากบนเขามาเดินเล่นในบ้าน จากุซซีก็มีลิงลงมาอาบ เปิดโล่งแบบนี้ตลอดเลยค่ะ ยุงก็ไม่กลัว โจรก็ไม่กลัว
ถึงแม้บ้านเราจะดูเป็นส่วนตัวมากๆ แต่เราก็มีคนดูแลหลายคน เข้ามาก็เจอไรเฟิล สุนัขเราก็ดุ อยู่มาสิบปีไม่เคยมีโจร ที่นี่อากาศดีมาก หนูชอบที่พ่อสร้างน้ำตกตรงข้างบ้าน เวลากลางคืนนอนฟังเสียงน้ำตกหลับสบายมาก” พื้นที่จำนวนหลายสิบไร่ขนาดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่บ้านหลังเดียว
แต่ด้านบนยังมีอีกหนึ่งหลัง ตกแต่งต่างสไตล์กันเลยล่ะ หลังนั้นเป็นคอมเทมโพรารี โอเรียลทอล เซนกระซิบบอกว่า ไว้รอโอกาสหน้าจะพาชมอีกหลัง นอกจากพื้นที่ยังเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ ยังจัดสรรพื้นที่ปลูกพืชผักผลไม้ไว้รับประทานเอง
เช่น กล้วย มะม่วง กระท้อน หน่อไม้ ผักหวาน ฯลฯ นี้ถ้าอากาศเหมือนทางภาคเหนือ เซนตั้งใจแน่วแน่เลยว่าจะปลูกสตรอเบอร์รี เท่านั้นยังไม่พอในเร็วๆ วันนี้ คือวันที่ 9 พ.ย. บ้านไร่กูไม่เบื่อ จะจัดงานใหญ่ คือ “กินลม ชมบาว” (Rock Never Dies ควาย Ever Dance)
ดึงตำนานร็อกเมืองไทยกีตาร์คิง แหลม มอริสัน กีตาร์ปืน กิตติ กาญจนสถิตย์ ช.อ้น ณ บางช้าง โอฬาร พรหมใจ และเอกมันต์ โพธิพันธุ์ทอง ขึ้นเวทีพร้อมหน้า ซึ่งจำนวนจำกัดเพียงแค่ 1,000 ที่นั่งเท่านั้น