เมย์ เล่าความแสบ น้องมายู ถึงขั้นพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์

บันเทิง

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งคู่แม่ลูกที่น่ารักมากจริงๆค่า สำหรับ เมย์ เฟื่องอารมณ์ และลูกสาว น้องมายู ซึ่งทั้งคู่มักจะมีโมเมนต์น่ารักๆ มาให้แฟนๆ ได้ยิ้มตามอยู่เป็นประจำ ล่าสุด แม่แมย์ ได้ออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บ Show เม้าท์ถึงพฤติกรรมสุดแสบของลูกสาว น้องมายู จนต้องโร่ไปปรึกษาคุณหมอ เผยครียดถึงขั้นต้องพึ่งความเชื่อยกให้เป็นลูกพระ

น้องมายูเลี้ยงยากมาก?

เมย์ : “ถ้าทุกคนติดตามจริงๆ จะรู้ว่าเป็นตัวของตัวเองสูงมาก และเป็นเด็กที่มีอารมณ์แปรปรวนค่อนข้างสูง ณ ตอนนั้นในวัยเด็กจะไม่เหมือนในเด็กคนอื่นๆ บางคนเชื่อฟังไม่มีงอแง มายูไม่ฟังไม่เอา มีอารมณ์แปรปรวนในเรื่องของอารมณ์พีกเยอะ พูดไรนิดนึงก็ลงไปดิ้นร้องไห้ ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจ เราก็พยายามพูดคุยกับเขา ต้องใช้เวลากับเขานิดนึง เขาจะไม่เข้าใจ เขาจะไม่เคยชินกับคนที่ไม่รู้จักมาแตะมาสัมผัส”

ปรับตัวในการเลี้ยงลูกยังไง?

เมย์ : “ตอนนั้นก็หนักอยู่ค่ะ หลายๆ อย่าง ที่โรงเรียนเขาจะมีใส่ชุดไทยน่ารักๆ เราก็อยากให้ลูกใส่ พอเอาไปให้เขาใส่ เขาไม่ใส่มันคัน ก็จะใส่เสื้อยืดของเขา”

มายูไม่ใส่กระโปรง?

เมย์ : “ใช่ค่ะ นอกจากกระโปรงแล้วก็เนื้อผ้าด้วย ณ ตอนนั้นนะคะ จะไม่ใส่กระโปรง ตอนนั้นด้วยวัย เขาปรับความรู้สึกไม่เข้าใจ บางทีเราก็มีอารมณ์พีกเหมือนกันว่า ทำไมลูกไม่ทำตามที่เรางบอก มีทะเลาะกันเหมือนกัน ลูกก็จะยิ่งวี้ดใส่ แรงกระทบแรง จนเรารู้สึกบางทีเด็กในห้องใส่กันหมดมีมายูคนเดียวไม่ใส่ ความรู้สึกในความเป็นแม่ของเราตอนนั้น เรารู้สึกไม่ดี ทำไมเราคอนโทรลลูกเราไม่ได้

ตอนนั้นจนตัดสินใจไปปรึกษาคุณหมอทางด้านของเด็ก เพื่อให้รู้ว่าเราจะต้องปรับตัวเราเองยังไง ปรับตัวลูกเรายังไง มันต้องปรับทั้งคู่ ณ วันนั้นเรายังไม่เข้าใจ เราไม่เคยมีลูกมาก่อน ไม่มีความรู้ พอเรารู้แล้วมันผ่านไป จริงๆ เขามีสิทธิ เขามีความคิดที่ไม่จำเป็นต้องไปบังคับเขา เขาอายุยังน้อยที่ยังไม่สามารถประมวลเหตุการณ์หรือความคิดถูกต้อง เราต้องให้โอกาส ปล่อยแล้วหยุดไปก่อน พออารมณ์ดีขึ้นเราค่อยหาเวลาคุยกับเขาอธิบายกับเขา”

วิธีการจัดการอารมณ์แปรปรวนของตัวเอง?

เมย์ : “เมื่อเราเข้าใจเขาแล้ว ง่ายๆ เลยคือแค่เราเข้าใจเขา เข้าใจอารมณ์ของเขา เข้าใจบริบทของเขา เราจะรู้สึกว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับอะไรเลย เราไม่ได้ต้องการอะไรเลย เราเข้าใจเป็นผู้ช่วยเขา สนับสนุนเขาทำให้เขาผ่านตรงนี้ไปได้อย่างดี มันก็จะดีขึ้น มันเมือนเป็นจิตวิทยาที่ต้องอยู่ข้างเขาก่อน แล้วพอเย็นลงค่อยมาพูดคุยกัน น้ำเสียงด้วย เด็กจะฟังจากน้ำเสียง ดูแววตา ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจ แต่พอลองทำ มันได้ผล”

ปัญหาของตัวเราเองก็มี ทำยังไง?

เมย์ : “ลูกเป็นอยางนี้ เราก็ร้องไห้คนเดียว ณ ตอนนั้น ทำไมเป็น แบบนี้ๆ เพราะเราไปคาดหวังเขาเยอะเกินไป จนมาคุยเราไม่ควรคาดหวังอะไรเขามาก ปรึกษาคุณหมออย่าคิดว่าเด็กเป็นผ้าขาวแล้วเราแต้มอะไรลงไปเป็นสีนั้น เด็กทุกคนเกิดมามีสีของแต่ละคน เราค่อยๆ เติมสีให้เขาเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ มือใหม่จะสับสนทุกคนพอผ่านไปแล้วเราจะรู้”

ฝากลูกไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์?

เมย์ : “ก็ช่วงวัยตอนนั้นที่มีภาวะอย่างนี้ พีกแบบนี้ เราศาสนาพุทธเลยรู้สึกว่าพามายูไปเข้าวัดบ้าง แต่เขาเด็กมาก ก็มีไปฝากไว้กับพระ ยกให้เป็นลูกพระ”

ช่วยได้ไหม?

เมย์ : “มันไม่ได้ถึงขนาดนั้น อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลหรือความเชื่อทางใจมากกว่า แต่ทุกๆ อย่างมันก็เป็นไปตามจริง สุดท้ายแล้วมายู 7 ขวบทุกอย่างแฮปปี้ดีมากเลย เขาเปลี่ยนด้วยตัวเขาเอง รอแค่เวลาเท่านั้น”

จะมีอีกคนไหม?

เมย์ : “ไม่มีแล้วค่ะอายุขนาดนี้”

ขอบคุณข้อมูล:Orange Mama