ครูชลธี กลับมาคืนดีภรรยา หลังถูกเด็กหลอกสูญเงินนับ 10 ล้าน

บันเทิง

ก่อนหน้านี้เจอมรสุมชีวิตอย่างหนักและยังมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นด้วย สำหรับ ครูชลธี ธารทอง กับภรรยา ครูปุ้ม ศศิวิมล แต่ตอนนี้ทั้งคู่ได้กลับมาคืนดีกันแล้ว หลังจากที่อีกฝ่ายถูกเด็กหลอกสูญเงินนับ 10 ล้าน โดย ครูชลธี ครูปุ้ม ได้ควงคู่เปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ เคลียร์ประเด็นที่เกิดขึ้นในตอนนั้น

4 ปีที่แล้ว ทั้งคู่ฟ้องหย่ากัน แต่ปัจจุบันนี้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว ก่อนกลับมามีการพูดคุยถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ยังไง ?

ครูปุ้ม : 4 ปีที่แล้วมีหลายๆเหตุการณ์เกิดขึ้น มีทั้งฟ้องหย่า ฟ้องมือที่สาม มีการฟ้องลูกศิษย์คนโปรดของครูชลธี

ได้ถามไหมว่าวันนั้นทำไมถึงตัดสินใจในเรื่องของการฟ้องหย่า ?

ครูปุ้ม : 4 ปีพี่ไม่ได้คุยกับครูชลธีเลย เพราะโทรศัพท์ครูชลถูกบล็อกหมดเลยทั้งลูกและพี่ปุ้มเองไม่เคยได้ถามสารทุกข์สุกดิบกันว่าครูเป็นยังไง

แสดงว่าวันที่เริ่มคุยกันวันแรกเลย คือวันที่ 15 มีนาคม 2565 ?

ครูปุ้ม : ถูกต้องค่ะ

วินาทีที่ได้เจอหน้ากันครั้งแรก รู้สึกยังไงบ้าง ?

ครูปุ้ม : ทั้งดีใจ เสียใจ และตกใจ ปนๆ กันหลายๆอารมณ์ ดีใจว่าครูกลับมาแล้วนะเสียใจที่ทำไมครูเป็นถึงขนาดนี้ครูสภาพเป็นเหมือนที่ออกสื่อตกใจทำไมทรัพย์สินครูหมดไปขนาดนี้

ที่บอกว่าสภาพครูเป็นแบบนั้น ครูเป็นอะไรบ้าง ?

ครูปุ้ม : แย่มากเลย ถ้าดูตามที่พี่ปุ้มลงในเฟซ ครูอ่วมไปเยอะเดินไม่คล่องก็ถามว่าทำไมเดินไม่คล่อง เขาบอกเนื่องจากอยู่ที่นู่น ถูกปล่อยให้อยู่ที่แคบๆโดยที่ไม่มีการดูแลกันเลย

บรรยากาศที่กลับมาเจอกันพูดคุยกันเยอะไหม หรือมีการร้องไห้กอดกันไหม ?

ครูปุ้ม : ร้องไห้แล้วก็กอดกัน เห็นสภาพแล้ว ครูก็น้ำตาคลอมา

วันที่ 15 ที่ผ่านมาที่เจอกับครูปุ้ม ครูชลพูดอะไรบ้าง ?

ครูปุ้ม : พ่อกลับมาแล้วพ่อขอโทษในสิ่งที่พ่อทำรู้สึกผิดในสิ่งที่ท่านทำว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

รู้สึกยังไงบ้างวันที่ 15 ที่เจอกัน ?

ครูชลธี : บอกกับปุ้มว่าผมกลับมาแล้ว ผมเดินทางไปซะนาน 4-5 ปี มันทำให้ผมเสียความรู้สึก คนอื่นก็เป็นทุกข์มากผมกลายเป็นทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ ก็เลยคิดว่าเราควรทำอะไรที่ดีกว่านี้ ชีวิตที่ผ่านมาที่ผมไปอยู่ต่างบ้านมารู้สึกว่ามันต่างกับบ้านที่ผมอยู่กับภรรยาผม ทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ได้ จะกิน จะคิดอะไรก็ได้ ไม่มีใครมาขีดเส้นใต้ผม

แต่ว่าไปที่นู้นผมทำอะไรไม่ได้เลย คิดอะไรไม่ได้เลย พูดอะไรไม่ได้เลย แม้แต่โทรศัพท์อยู่ในมือก็โทรหาใครไม่ได้เลย เลยถามตัวเองว่านี่ฉันเป็นใครมาอยู่ภายใต้การกดดันอย่างนี้มันใช่เหรอ เราเป็นใคร เขาเป็นใคร หลังจากนั้นผมก็ตัดสินใจว่าควรจะกลับบ้าน ควรจะไปหาคนที่เข้าใจผมจริงๆ ที่รู้ใจผม และดูแลผมได้จริงๆ

ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้เขาก็ยังดูแลผมดีอยู่ ผมกลับมาแทนที่จะโกรธผม เขากลับให้อภัย ให้กำลังใจ ซึ่งหาจากคนอื่นคงยาก เพราะผมทำเขาเจ็บมาก แล้วก็เป็นความรู้สึกที่แย่ ผมต้องขอโทษทุกอย่างที่ผ่านไป ต้องขอโทษจริงๆที่หลงผิดไป หลงทางไปลงนรกมา คราวนี้ขึ้นจากนรกแล้ว

หลายคนก็พูดกันไปต่างๆ นานาว่าสาเหตุที่ครูชลธีกลับมาเป็นเพราะไปโดนหลอกจนหมดตัวก็เลยต้องกลับมาหาครูปุ้ม?

ครูปุ้ม : พี่ว่ามันก็มีส่วนนะ เพราะว่าตอนนี้สภาพของครูชลในเรื่องของทรัพย์สิน เรื่องของสุขภาพ ถามว่าถ้าคนไม่เอาใจใส่หรือว่ามีความรักจริง รับรองไม่มีใครเอาครูแน่ พี่ว่าเหตุผลนั้นสำคัญกว่า จากที่พี่ตรวจเช็กเงินในบัญชี จากเลข 7-8 หลัก หมดเลย

บังเอิญช่วงที่กลับมา ช่วงที่คุณครูนอนอยู่โรงพยาบาล มีโอกาสได้หยิบโทรศัพท์ครูมาดูสลิปการโอน วันนึง 30,000, 50,000 ติดๆ กันเลย ในการโอนออกที่เยอะมาก แล้วก็ 20 บาทยังโอนเลย เยอะจริง 300 กว่าสลิป 4 ปี ที่ปรากฏอยู่ในมือถือของคุณครู

ครูได้บอกไหมว่าเหตุผลหลักๆ ที่กลับมาหาครูปุ้มคืออะไร ?

ครูชลธี : อย่างที่ผมบอกที่กลับมาเพราะผมกดดัน โดนปิดกั้นทุกอย่างหมดเลย โทษผมเองที่ผมเดินทางผิด ทั้งๆ ที่มันผิดก็ยังทำ อันนี้ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องโทษคนอื่น มันเป็นผลกรรมของผม ผมยอมรับตรงนี้ ก็ต้องขอโทษทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบ ผมไม่ได้ตั้งใจ จะไม่โทษใครทั้งนั้น โทษตัวผมเอง ผมพยายามทำตัวให้ดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูล : คุยแซ่บโชว์