ฝรั่งประกาศขายบ้านหรู ไม่อยู่แล้วไทยแลนด์ กลับประเทศตัวเองดีกว่า รู้เหตุผลสงสารมาก

ข่าวทั่วไป

ต้องบอกเลยว่าสมัยไทยสมัยนี้มันเริ่มอยู่ยากขึ้นทุกวันเลยจริงๆ มองไปไหนก็มีแต่คนร้าย โจรขโมย และก่อนหน้านี้ทางเฟซบุ๊กพลังสื่อonline ก็ได้นำเสนอเรื่องราวที่หดหู่ใจของเมืองไทย โดยระบุข้อความว่า ฝรั่งสุดทน ไม่อยู่แล้วไทยแลนด์ ประกาศขายบ้านหรู หลังถูกโจรปีนบ้านกวาดทรัพย์สินไปกว่าล้านบาท โวยตำรวจเกรี้ยวกราดผ่านมาครึ่งเดือนยังไร้เบาะแส

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.นางเดือนเพ็ญ วินน์ อายุ40 ปี ภรรยาชาวไทยของ มิสเตอร์ โรเบิร์ต วินน์ อายุ 59 ปี สัญชาติแคนาดา ซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเดอะปาล์ม ถนนเทศบาล7 ซอยคลองทราย ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว กรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา บ้านที่อาศัยอยู่ ได้ถูกมิจฉาชีพงัดบ้านเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน ทั้งเงินสดสกุลต่างๆ และ ทองคำรูปพรรณ รวมมูลค่ากว่าหนึ่งล้านบาท จึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อุดม ศรีสงค์ ร้อยเวร สภ.บ้านฉาง ระยอง จนถึงวันนี้คดียังไม่คืบหน้า แถมตำรวจยังพูดจาดุด่าด้วยถ้อยคำที่ดุดัน จนทำให้ต้องประกาศขายบ้าน เพื่อจะย้ายกลับ ไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา

นางเดือนเพ็ญ ได้ เปิดเผยว่า ตนเองเปิดร้านเสริมสวย ส่วนสามีชาวแคนาดาทำธุรกิจส่วนตัว ได้ย้ายมาอยู่ประเทศไทยนานแล้ว เพราะ นายโรเบิร์ต สามี ชอบประเทศไทย สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ.63 ซึ่งตนเองกับนายโรเบิร์ตสามี เดินทางไป จ.ชลบุรี หลังจากกลับมาถึงบ้านก็แทบทรุด เพราะประตูหลังบ้านถูกตัดเหล็กแล้วงัดเข้าไป จึงรีบไปตรวจสอบ ทรัพย์สิน พบว่าเงินสดไทย 30,000 บาท เงินดอลลาร์สหรัฐ40 ดอลล์ล่า เงินสกุลดอลลาร์แคนนาดา40,000 ดอลลาร์ เงินสกุลเยน 10,000 เยน โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ใช้ในการเดินทาง

ซึ่งรวมมูลล่าทรัพย์สินกว่า 1 ล้านบาท เงินดังกล่าวได้เก็บไว้ที่บ้านพักเพื่อรอให้ค่าเงินสูงขึ้นแล้วจะนำไปแลกกับธนาคาร แต่มีคนร้ายเข้ามาขโมยไปเสียก่อน จึงรีบตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ที่ไม่ค่อยชัดเจนเพราะไกลจากรัศมีกล้องวงจรปิดคนร้ายเป็นผู้ชายกลางคน สวมเสื้อคลุมแขนยาวคล้ายกับเสื้อพนักงานโรงงาน ปีนรั้วเข้าไปแล้วตัดเหล็กประตูหลังบ้านอย่างใจเย็นก่อนจะงัดประตูเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ออกมาพร้อมกับทรัพย์สินที่ขโมยมา ก่อนจะปีนออกจากบ้านแล้วหนีไปอย่างลอยนวล

หลังเกิดเหตุจึงรีบเดินทางไปแจ้งความ พร้อมนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นหลักฐานเดียวที่มี ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านฉาง ระยอง และ แจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของหมู่บ้านให้ทราบ หลังแจ้งความก็ได้ติดต่อสอบถามความคืบหน้ากับตำรวจเจ้าของคดี แต่กลับได้รับคำตอบแบบไม่พอใจ แถมยังดุอีกด้วย จึงทำให้ทางตนเองและสามีรู้สึกเบื่อกับพฤติกรรม และ สุดทนกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ทั้งๆที่เป็นหมู่บ้านที่มีมาตรฐาน การรักษาความปลอดภัยที่ดี แต่กลับเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้บ้านฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นบ้านของขาวต่างชาติเคยถูกโจรกรรมมาแล้ว ครั้งนั้นคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็น ทองรูปพรรณหนัก8บาท และเงินสดจำนวนหนึ่ง ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย รายเดียวกัน ที่รู้ถึงความเคลื่อนไหวของคนในหมู่บ้านเป็นอย่างดี จะเห็นได้จากเวลาที่เข้าก่อเหตุ มักจะทราบว่าบ้านหลังไหนไม่มีคนอยู่ จึงสร้างความแปลกใจและหวาดระแวงกับผู้อาศัยในหมู่บ้าน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

นายโรเบิร์ต วินน์ ชาวแคนาดา ได้ กล่าวว่า ตนเอง รู้สึกผิดหวังกับการดูแลรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน และ การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เสียความรู้สึกมากกับการพูดจาที่เกรี้ยวกราดดุดัน ราวกับตนเองเป็นผู้ต้องหา ทั้งที่ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วแต่ยังไร้เบาะแส หลังเกิดเหตุต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว จึงได้ปรึกษากับภรรยา จึงสรุปว่าจะกลับไปอยู่ที่แคนาดาดีกว่า ทั้งๆที่รักประเทศไทยมาก แต่ก็ทนอยู่กับความหวาดกลัวต่อไปไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกโจรกรรมอีก ล่าสุดจึงได้ให้ ทนายฟ้องต่อหมู่บ้าน เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย เพราะถือว่าเป็นความผิดของโครงการที่ดูแลไม่ทั่วถึง ทั้งที่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางค่าดูแลความปลอดภัยทุกเดือน

โดยจะประกาศขายบ้าน 5.5 ล้านบาท ยอมขายขาดทุน เพราะราคาบ้านและตกแต่งร่วม7ล้านบาท หลังจากขายบ้านเรียบร้อยก็จะย้ายกลับไปอยู่แคนาดาพร้อมภรรยาสาวไทยด้าน ร.ต.อ.อุดม ศรีสงค์ ร้อยเวร สภ.บ้านฉาง ระยอง ร้อยเวรเจ้าของคดีได้เปิดเผยว่า สำหรับกรณีคดีดังกล่าวนั้น ทางตำรวจได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง หลังรับแจ้งมีการประสานทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นเก็บรอยนิ้วมือแฝงในจุดเกิดเหตุ และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบลงพื้นที่เก็บหลักฐานล่าตัวคนร้าย

ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนกรณีที่ว่าพูดจาดุดันคงจะเข้าใจผิดในการสื่อสาร เพราะตนเองก็รับฟังและอธิบายให้ฟังอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องจับคนร้ายนั้นคงต้องใช้เวลา เพราะในพื้นที่ดังกล่าวมีประชากรแฝงเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ขอฝากว่าตำรวจทำเต็มที่และเต็มใจให้บริการด้วยความเป็นมิตร

ไม่อยู่แล้ว

ไทยแลนด์

ขอบคุณข้อมูล:พลังสื่อonline

เรียบเรียงโดย:setup999