หมอยง หวั่น ฤดูฝน โควิด-19 กลับมาระบาดรอบ 2

ข่าวทั่วไป

ตั้งเเต่มีการเเพร่ระบาดของไวรัสในประเทศไทย ทำให้หลายคนต่างวิตกกังวลกับเชื้อไวรัสโควิด-19 นี่เป็นอย่างมาก ซึ่งทางรัฐบาลต่างก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่จะเข้าช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ เเละหลังจากที่ประเทศไทยเริ่มเข้าฤดูฝน ทำให้นายเเพทย์ ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ได้ออกมาเเสดงความเป็นห่วงหากโควิด-19 ระบาดรอบ 2 ในฤดูฝน

โดยทางคุณหมอได้เผยว่า “โควิด-19 เราจะต้องอยู่ด้วยกันได้ถึงแม้ว่า ขณะนี้ประเทศไทยติดเชื้อน้อยมาก จะพบการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศมาตรการในการควบคุมทำได้ดีมากแต่ยังมีโรคนี้ระบาดอยู่ทั่วโลก มีผู้ป่วยใหม่วันละเป็นแสนคนจึงเป็นการยากที่จะกวาดล้างไวรัสนี้ให้หมดไป ทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับตัว ให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ในทุกปี

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่นไข้หวัดใหญ่ RSV จะพบน้อยมากในฤดูร้อน และในช่วงปิดเทอม จะระบาดมากในฤดูฝน เริ่มตั้งแต่นักเรียนเปิดเทอม จะติดต่อกันง่ายมาก ในโรงเรียน โควิด-19 เป็นอีกโรคหนึ่งที่มีการติดเชื้อ เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจก็ไม่แปลก ที่จะระบาดในฤดูฝน โดยเฉพาะจากเด็กสู่เด็กก่อน แล้วจึงแพร่ระบาดออกไปการระบาดในระลอก 2

ถ้าเกิดในฤดูฝน อย่างไข้หวัดใหญ่ ก็ยากที่จะควบคุม จะต้องเริ่มต้นปิดบ้านปิดเมืองใหม่  หรือ ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นการเรียนการสอนปีนี้ จึงต้องอยู่ในวิถีชีวิตใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของโรคได้เด็กนักเรียนจะต้องเรียนได้ทั้งที่บ้าน และ ที่โรงเรียนการเรียนการสอน ไม่ควรยกให้เป็นภาระของโรงเรียนเท่านั้น

ที่บ้านก็จะต้องมีบทบาทมาก แม้กระทั่งท้องถิ่น ก็มีปราชญ์ชาวบ้านมากมาย ที่พร้อมจะสอนได้ การประสบความสำเร็จในชีวิตของเด็ก ไม่ได้เกิดจากการแข่งขันเข้าเรียน การกวดวิชาโรงเรียนกวดวิชาไม่สามารถกำหนดระยะห่างของบุคคลได้ เด็กเรียนกวดวิชาจ่ายค่าเล่าเรียนแพง แล้วนั่งเรียนกับครูตู้ นั่งติดกัน ก็ไม่เห็นมีใครบ่น

หรือดรามา ที่ผ่านมา คนมีฐานะสามารถให้ลูกหลานไปเรียนกวดวิชา เกิดความแตกต่างทางการศึกษา เพราะตัววัดของเราไม่ดี คุณครูเองก็จะต้องเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสเลยการเรียนเชิงภาคปฏิบัติ ปฏิบัติงานจริง ไปทำได้จริง

ถึงอยู่ที่บ้านก็สามารถทำได้การศึกษาในปีนี้ จึงต้องมีการเตรียมการ การเรียนการสอนแบบวิถีชีวิตใหม่ ให้เด็กไทยประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่เกิดความเครียดในการเรียน ตั้งแต่เช้าจนเย็น นอกเวลาต้องไปกวดวิชาวิถีชีวิตใหม่ อาจทำให้เด็กมีความสุขมากขึ้นก็ได้ ”

ขอบคุณข้อมูล:Yong Poovorawan

May