สาวแชร์ประสบการณ์ จากเด็กที่โดนบลูลี่ จนได้มาเป็นแอร์โฮสเตส

ข่าว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายๆ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อคุณ “Creamly5” ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การเป็นแอร์ ที่เริ่มต้นจากคนธรรมดาที่ อ้วนและดำมาตั้งแต่เด็ก จนโดนบลูลี่ แต่ความตั้งใจก็สามารถทำให้เธอฝ่าฝันอุปสรรคมาจนวันนี้ โดยเธอได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า สงครามนางฟ้าversion จริง) เจอเม้นต์ด่า.เพื่อนfakeชินแล้วเพราะโดนบูลลี่ตั้งแต่เด็กว่าอ้วน ไม่สวย.บอกว่าเราไม่เคยเป็นหลีด/ประกวด/ดารา/ไม่ได้เรียนติวแอร์ ยังไงก็ไม่ได้เป็น.ดราม่าทั้งหมดก็เริ่มขึ้น

จากคนธรรมดามาเป็นแอร์โฮสเตส flywithcream6 ปีที่แล้ว การที่เราจะไปสมัครหรือเป็นแอร์โฮสเตสได้ คนส่วนใหญ่จะมองว่า … ต้องสวย ผอม หุ่นดี ผิวดีมากขนาดที่ว่าห้ามมีแผลเป็นเลย ต้องทำฟันขาว ฟอกสีฟันถึงจะได้เป็นตอนเด็กๆพออาจารย์ถามว่าโตขี้นอยากเป็นอะไร .. บอกว่าอยากเป็นแอร์โฮสเตส (รร.รัฐบาล ผมสั้นติ่งหูตามภาพเลย) ทุกคนขำ บอกว่าไม่ได้หรอก เพราะอ้วนดำ

ถ้าอยากเป็นแอร์โฮสเตสน้องเริ่มจากการสมัครเป็นหลีดหรือทำตำแหน่งที่.. คนสวยๆเขาทำกัน ตัดภาพมาที่เรา มันไม่ใช่ทางอะ เพราะเราไม่สวย.. แต่ตอนนั้นโชคดี ได้เข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ inter ค่าเทอมแพงมาก (แม่ดีใจมาก) แต่แล้วก็ ซิ่ว เพราะตอนนั้นที่บ้านเงินหมุนไม่ทัน แล้วก็สอบได้ทุนครึ่งจำนวนมาเรียนเอแบคเริ่มทำจมูกตอนปี 1 อยากขาว ก็จะหลบแดดไม่ค่อยเล่นกลางแจ้งตั้งแต่มอปลายแล้ว วิวัฒนาการณ์ของเด็กมาหวิทยาลัยคือ ทุกคนจะค่อยๆสวยขึ้น .. ครีมว่าทุกคนคงเห็นเยอะ ..

พอมาปี4 ทุกคนเรื่มไปเรียนติวแอร์ ( ตอนนั้นที่อยู่ปี3ปี4 ก็ทำงานfreelance เป็นล่าม งานแปล ขายสินค้า ออก event ทำทุกอย่าง ส่งตัวเองเรียน .. ) แล้วก็ตัดสินใจลองไป prescreen เห็นเพื่อนๆไปกันเยอะ เขาจะถามเราเลยว่าเราเคยทำอะไรที่มหาลัยบ้าง เป็นหลีดไหม หรือเคยเป็นดารามาก่อน (แต่เขามองหน้า หุ่นเราแล้วบอกว่าเราอ้วน และมั่นเกิน)

เราก็เลยไม่อยากเรียนเพราะเขาบอกแต่ข้อเสียเราแต่ไม่บอกให้เราแก้จุดไหน (ปล . โรงเรียนติวแอร์มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบการสอนของใครค่ะ ) รวมถึงบอกอีกว่า ยังน้องก็ไม่ได้เป็นแอร์ เพราะน้องไม่มีคุณสมบัติ .. แต่เพื่อนเราอีกคนเคยเป็นหลีด และรุ่นพี่เราเป็นน้องดาราดัง คือเขาชมทุกคนยกเว้นเรา.. เรารู้สึกไม่มีความมั่นใจเลย สมัครแอร์หลายรอบจนโดนด่าว่าเป็นแอร์ wannabe บ้าง (ให้เขาด่าไปเหอะเพราะครีมต้องหาเลี้ยงครอบครัว) ตอนไปสมัครแอร์ มันส์ มาก เราจะเจอคนที่มาสมัครแอร์จากทุกสถาบัน แล้วเราจะรู้เลยว่าใครเรียนแอร์ไม่เรียนแอร์ 1. ดูจากสูท (เด็กเรียนติวแอร์ที่เดียวกันจะใส่สูทสไตล์คล้ายๆกัน

2. เขาจะดูมั่นใจมากๆเหมือนมาสมัครนางงามแล้วมองคนอื่นแบบจับผิดอะ3. คนที่ไม่เรียนติวแอร์จะแต่งตัวสูทปกติ dressบ้าง เสื้อกับกระโปรงบ้าง ดูไม่ค่อยมั่นใจ/เฉยๆไม่สนอารมณ์ว่าฉันมาสมัครแอร์อย่างเดียว (ขึ้นกับประสบการณ์ของแต่ละคนที่เจอเลยค่ะ)สมัครมา 5 ครั้ง ไม่ได้เรียนติวแอร์.. แต่ตกรอบจนนับครั้งไม่ถ้วน เห็นหมด .. บางทีเข้าไปในห้องน้ำ ได้ยินคนจับกลุ่มนินทาก็มี บางคนพอได้เป็นแอร์ก็ไม่คุยกับเพื่อนที่สมัครแอร์มาด้วยกันเลยก็มี(ครีมว่าแล้วแต่คน)ครีมว่าครีมเป็นแอร์ที่ดวงซวยที่สุด แต่ครีมก็ไม่ละความพยายามในการสมัครแอร์ฯ

ก็ไล่สมัครไปเรื่อยๆ ช่วงนึงเจอรถสิบล้อชน แล้วก็ตกงานด้วย แต่ในความโชคร้ายมักจะมีความโชคดีเสมอ .. วันนั้นครีมได้ golden call จากทางสายการบิน แล้วก็ได้เป็นแอร์แขกไปอยู่ดูไบ แต่พอได้เป็นแอร์โฮสเตส ก็ยังไม่พ้นโดนคนด่า โลก social ก็เหมือนกับ ดาบสองคมมีคนรักเรา มีคนเกียจเรา พอได้เป็นแอร์ฯ เขาก็จะรู้กันว่า คนนี้เคยเป็นดารา น้องคนนี้เคยประกวด เคยเป็นหลีดเราก็จะเห็นจะรู้ๆกัน บางคนดีก็ดีไปเลย ส่วนใหญ่ต่างคนต่างอยู่ และทำตัวธรรมดากับเพื่อนมากๆ

บางคนเคยเจอ เคยอ่านเคยเห็นในโลก social /youtube แต่ตัวจริงคือ คนละเรื่องเลย เราคุยกับเขา เขาไม่อยากคุยกับเรา…ก็มี .. เด็กที่เรียนติวแอร์เขาก็จะจับกันเป็นกลุ่มบ้างถ้าเขาได้ด้วยกันแต่ ส่วนใหญ่เขาไม่ได้เป็นแอร์พร้อมกัน.. เพื่อนบางคนยังบอกเลยว่า ตอนเรียนคนที่สอนติวแอร์เขาไม่ได้สนใจเราขนาดนั้น พอเราได้แอร์ถึงจะมาสนใจ เพื่อนก็เลยไม่ยุ่งเลย..แต่ถ้าถามถึงความรู้สึกในตอนนี้ ทุกสังคม … มีคนโดนด่า โดนบูลลี่ โดนนินทาหมด ความรักจากครอบครัว ขอบคุณเพื่อนรอบข้างที่จริงใจ คือสิ่งที่มีค่าที่สุด พอโตขึ้นเราจะไม่ได้อยาก…. มีเพื่อนเยอะ แต่แค่มีเพื่อนไม่กี่คนที่สนิทและจริงใจก็พอ

ขอบคุณข้อมูล:Creamly5

เรียบเรียงโดย:setup999