วิกฤตหนักมากๆกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ของประเทศไทยตอนนี้บอกเลยว่าวิกฤตหนักมากจริงๆเพราะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มพุ่งขึ้นสูงแทบทุกวันเลยทีเดียวและไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย
และในขณะเดียวกันตอนนี้ทางรัฐบาลก็กำลังเร่งฉีดวัคซีนให้กับุคลากรทางการแพทย์และพี่น้องประชาชนทั่วไป แต่ก็ไม่วายเกิดปัญหาตามมาเพราะหลายๆคนที่ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วพบว่ามีภูมิที่ลดลง
จึงทำให้มีผู้ติดเชื้อแม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยจะมีการแก้ปัญหาให้ฉีดวัคซีนสลับกัน แต่คุณหมอหลายๆคนก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าการฉีดวัคซีนสลับกันมันไม่ดีต่อร่างกายคนเราแนะให้ฉีดตัวเดียว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 64 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงการฉีดวัคซีนสลับกัน
โดยระบุว่า”เป็นเรื่องหรรษาที่ขบขันไม่ออก สำหรับคนด่านหน้า ที่ต้องเจอคนไข้จริงๆทุกวันที่เราต้องการขณะนี้คือเข็มที่สามเช่นแอสตร้า หรือไฟเซอร์ โมเดนา (ถ้ามาทัน) เพราะขณะนี้ภูมิหดหายไปเกือบหมดแล้ว
และกลายเป็นผู้แพร่เชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งๆที่ ป้องกันตัวตามปกติหน้ากากสองชั้น ล้างมือแต่ต้องดูคนไข้วันละเป็น 10 คนโดยคนไข้มาด้วยโรคอื่นที่ไม่ใช่โควิดแต่แฝงโควิดมาโดยไม่รู้ตัว พลาดพลั้งเสียที เลยติดไปด้วย
การใช้ชิโนแวค เข็มแรกและตามด้วยแอสตร้า อาจเป็นเหมือนได้แอสตร้าเข็มเดียว เพราะชิโนแวค ออกแบบมาให้ฉีดสองเข็มจึงจะได้ผลส่วนแอสตร้า ไฟเซอร์ โมเดนา แม้ฉีดเข็มเดียวก็แสดงประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้บ้างแล้ว
การจัดหาวัคซีนให้เพียงพอจำนวนและมีประสิทธิภาพและสามารถตามต่อได้ เมื่อภูมิลดลงเป็นหัวใจสำคัญ ร่วมกับการรักษาวินัยสูงสุดและการคัดกรองถ้วนทั่วทุกตัวคนตามด้วยการแยกตัวทันที
ยังไงช่วงนี้ก็ขอให้ทุกคนๆเฝ้าระวังตัวเองกันไว้ให้ดีๆนะคะเพราะสถานการณ์ตอนนี้วิกฤตหนักมากจริงๆ สู้ๆเราต้องรอดไปด้วยกันได้อยู่แล้วเนอะอีกไม่นานก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูล : ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha
