สำหรับ จูน กีรติญา ในวงการของนักเพาะกายน่าจะรู้จักเธอเป็นอย่างดีค่ะ เธอเป็นนักเพาะกายวัย 31 ปี ในอดีตนั้นเธอเคยเป็นแอร์โฮสเตสมาก่อน แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจึงอยากออกกำลังกายจนในที่สุด จูน ก็หลงรักในการออกกำลังกาย และหันมาจริงจังในเรื่องของการเพาะกาย
ล่าสุดก็ทำเอาคนไทยเฮไปตามๆกันเลยทีเดียวค่ะ หลังจากที่ จูน นั้นสามารถคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันรายการ เพาะกายเอเชีย Asian Bodybuilding-Physique Sports Championships 2022 ที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์ มาครองได้สำเร็จ
นอกจากนี้ยังคว้าอันดับ 4 ในประเภทโมเดลฟิสิคหญิงในรุ่นอายุระหว่าง 30-40 ปี มาครองได้อีกรางวัล ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ จูน กันค่ะว่าจุดเริ่มต้นของเธอนั้นเป็นอย่างไร ทำไมถึงกลายมาเป็นนักเพาะกาย
เริ่มแรกนั้น จูน ต้องการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จากนั้นก็แปรเปลี่ยนมาเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ก่อนก้าวถึงตำแหน่งแชมป์เอเชีย และรองแชมป์โลก ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องสำหรับ จูน
ปัจจุบัน จูน ก็ยังคงเดินสายประกวดตามเวทีต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์รับสอนออกกำลังกาย โดยสอนแบบทั้งตัวต่อตัว และออนไลน์สวยแล้วยังเก่งอีกด้วยนะคะ ส่วนด้านการศึกษานั้นก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวค่ะ จูน จบปริญญาตรีหลักสูตรอินเตอร์จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อย่างก่อนหน้านี้ จูน ก็เคยโพสต์เทียบรูปของตัวเองสมัยที่ยังเป็นแอร์โฮสเตส กับ ตอนที่เป็นนักเพาะกาย โดยระบุว่า “แรงบันดาลใจ #รูปเทียบจาก @muaylekm หนัก 43 เท่ากันแต่ที่ต่างกันคือสุขภาพ
รูปซ้ายตอนเป็นแอร์ตัวน้อย ทุกคนให้ฉายาว่า “จิ๋ว” เพราะจิ๋วสุดในสายจริง แม้จะสู้งานเรียกไปบินตอนไหนก็ไป ที่ไหนก็ได้ ทำอะไรก็ไม่หวั่น แต่ป่วยโคตรรรบ่อย ป่วยมันทุกเดือน บินไปหาหมอไปที่แท้
แต่หลังจากออกจากแอร์ เราก็ไม่ได้เข้าใกล้วงโคจรนักกีฬานะ แต่เริ่มใกล้ขึ้นมาทีละหน่อยจากงานที่ทำ จนมาเป็นงานที่เป็นเลขาผู้บริหารในบริษัทฟิตเนสจ้า แต่ก็ยังไม่ได้ออกกำลังอยู่ดี จนทุกอย่างรุมเร้า หาทางไปไม่เจอ เลยเปิดใจออกกำลังซักหน่อย
ออกเล่นๆ ไปๆมาๆอ่าว กลายเป็นรูปขวาที่ยังคงหนัก 43 แต่มีสุขภาพที่ดีขึ้น ป่วยน้อยลงจนแทบไม่ป่วยเลย ไม่เจอหมอบ่อยอีกต่อไป ประหยัดค่าหมอ ไปจ่ายค่าอาหารแทนจ้ะ 🤣” เมื่อก่อนกับตอนนี้รูปร่างต่างกันมากเลยค่ะ
ขอขอบคุณ : junekeeratiya
