จากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19ที่เริ่มมาจาก ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากพุ่งสูงกว่าในหลายๆพื้นที่ของประเทศไทยด้วย เพราะจังหวัดสมุทรสาครมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่พักอาศัยและทำงานอยู่ หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อโควิดในสมุทรสาครมากขึ้นเรื่อยๆ
นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ได้ให้จังหวัดสมุทรสาคร ใช้ที่ดิน 8 ไร่ เพื่อสร้างศูนย์ห่วงใยคนสาคร หลังจากที่ได้มอบอาคารแฟคตอรี่ 2 หลัง ให้ทำศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 3 รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19ได้ประมาณ 300 เตียง โดยสถานที่แห่งใหม่ที่จะสร้างนี้เป็นโรงพยาบาลสนาม
สามารถรองรับได้มากถึง 1,000 เตียง อยู่ในโครงการวัฒนา Factory โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด ซึ่งนายวัฒนา เผยว่า ได้ปรับถมที่ดินจำนวน 8 ไร่ เพื่อสร้างโรงพยาบาลสนามพร้อมอุปกรณ์โรงพยาบาลสนาม งบประมาณการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 5 ล้านบาท
ซึ่งเงินส่วนนี้ไม่อยากให้ใครๆมองว่าตัวเองร่ำรวย แต่อยากให้มองว่าเราต้องช่วยกันเสียสละเพราะว่าเงินค่าก่อสร้างทั้งหมด ตนเองตั้งใจจะขอแรงสนับสนุนจากเพื่อนๆสนิท แต่หากได้หรือไม่ได้อย่างไร ก็คงต้องดำเนินการต่อไปให้โรงพยาบาลสนามนี้แล้วเสร็จ หลายๆคนยกย่องและชื่นชมท่านนายก อบต.พันท้ายนรสิงห์เป็นอย่างมากที่มีจิตใจดีช่วยเหลือประชาชน
ได้เปิดใจว่า ผมทำเพื่อคนสมุทรสาคร ถึงตอนนี้เราต้องช่วยกันที่ผมให้ที่ 8 ไร่ ทำโรงพยาบาลสนามก็เพื่อช่วยคนสมุทรสาคร และแรงงานที่ทำงานที่นี่อย่าไปดูถูกเขาเลย คิดง่ายๆก็เหมือนเราไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วเราถูกรังเกียจ ถ้าเป็นโรคอ่ะหัวอกเขาก็เหมือนหัวอกเรา
ผมไม่ได้ทำเพื่อใครผมทำเพื่อคนสมุทรสาครแล้วผมก็ทำเพื่อคน ต.พันท้ายนรสิงห์ ถ้าคน ต.พันท้ายนรสิงห์ติดโควิด-19 มารับเงินที่ผมเลย 500,000 บาท เพราะผมถือว่าเขาเป็นผู้เสียสละเพื่อคนสมุทรสาครพร้อมไปกับผม และถ้าคราวหน้าผมลงสมัครการเมืองท้องถิ่น ถ้าใครไม่เลือกผมก็ไม่เป็นไรครับ ผมทำเพื่อคนตำบลของผมและคนสมุทรสาครครับ
ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
