เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตแห่แชร์และเข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก เมื่อนักเรียนชั้นม.3 ได้จ่ายค่าโดยสาร 30 บาทด้วยแบงค์ 100 แต่กลับไม่ได้เงินทอน เพราะคนขับ ขับรถหนีทันที ทำให้เด็กม. 3 คนดังกล่าว
เครียดเพราะไม่มีเงินเพียงแค่นั้นและเดินทางมาไกล ไม่มีตังค์ซื้อข้าวกลางวัน รวมถึงไม่มีเงินจ่ายค่ารถกลับบ้านด้วยความเครียดหลายอย่าง จึงคิดสั้นจะไปโดดสะพานลอยข้ามถนน แต่ดีที่เพื่อนโรงเรียนและประชาชนกันห้ามพาตัวลงมาปลอบใจไว้ได้
ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้ออกมาอัปเดตถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า “#คืบหน้าสองแถวโกงเงินเด็กนักเรียน ตำรวจนำตัวคนขับรถสองแถวโกงเงินเด็กมาสอบสวน เจ้าตัวให้การรับสารภาพ จากกรณีที่มีผู้ขับรถสองแถวรับจ้างประจำทางสายสัตหีบ-พัทยา ไม่ทอนเงินค่าโดยสารคืนให้เด็กนักเรียนชายจนเป็นเหตุให้จะกระโดดสะพานลอยข้ามถนน
และวิ่งให้รถชนเพื่อฆ่าตัวตาย จนไม่มีเงินติดที่จะไว้ทานอาหารกลางวัน และเป็นค่ารถกลับบ้านในตอนเลิกเรียน จนคิดจะฆ่าตัวตาย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เช้านี้ 15 ก.ย.63 พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วย นายพิเชฐ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ไปเชิญตัวคนขับรถสองแถว คิวรถสัตหีบ-นาเกลือ 1631 จ- 110 มาสอบสวน
โดยมีนาย จตุพล ชาวเชียงยืน อายุ 26 ปี รับสารภาพเป็นคนขับรถในวันและเวลาดังกล่าว ซึ่งสามารถติดตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนน ที่รถวิ่งจนรู้ว่ารถคันดังกล่าวหมายเลขอะไร เบื้องต้นคนขับได้ให้การรับสารภาพโดยคิดว่าเด็กคนดังกล่าวให้เงินมาจำนวน 20 บาท เพราะมีเด็กนักเรียนลงมาจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก จึงไม่ได้สังเกตุว่าเป็นแบงค์อะไรบ้าง จึงออกรถไป เพราะค่าโดยสารจากพัทยา มาสัตหีบ
สำหรับค่าโดยสารเด็กนักเรียนค่าโดยสารจำนวน 20 บาทเท่านั้น ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาจะโกงเงินเด็กแต่อย่างใด ซึ่งน่าจะเป็นการเข้าใจผิด แบงค์เงินที่จ่ายค่าโดยสารมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อกล่าวหา พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 159 ผู้ใดเรียกเก็บค่าขนส่ง ค่าบริการรับจัดการขนส่งค่าบริการเกี่ยวกับการดำเนินการของสถานีขนส่งหรือค่าบริการอย่างอื่น ผิดไปจากอัตราที่คณะกรรมการกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท”
ขอบคุณข้อมูล:สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เรียบเรียงโดย:setup999
