โก้ วศิน เปิดใจครั้งแรก หลังถูกต้นสังกัดยุติสัญญา

บันเทิง

ต้องบอกเลยว่าก่อนหน้านี้ทำเอาแฟนๆ ช็อกเป็นอย่างมาก เมื่อพระเอกหนุ่ม โก้ วศิน ถูกช่อง7 ประกาศยุติสัญญาก่อนกำหนด เหตุเกิดจากการที่พระเอกหนุ่มข้ามช่องไปออกรายการดัง The wall song ร้องข้ามกําแพง โดยหนุ่มโก้ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า

โดนยกเลิกสัญญา?

“ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนนิดนึงว่า คือเราจะหมดสัญญากับทางช่อง7 ในเดือนพฤศจิกายนที่ใกล้จะถึงนี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสได้เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ทางช่องแล้วด้วย ว่าเราอาจจะขออนุญาตออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ได้คุยกัน เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คุยกันดีเลยครับ ทางนั้นก็เข้าใจเรา ก็แฮปปี้ แล้วก็ขอบคุณทั้งผู้ใหญ่ ทั้งช่องด้วย

เพราะด้วยเวลาที่ผ่านมาเราก็อยู่นานเหมือนกัน นับไม่ถูกว่ากี่ปี แต่ก็นาน แล้วก็แฮปปี้ รู้สึกอบอุ่น เขาก็ดูแลเราดี รวมถึงเราก็เหมือนได้ครอบครัวใหม่ด้วย ทั้งพี่ๆ น้องๆ นักแสดง พี่ผู้ใหญ่ในช่อง หรือทีมงานทุกคนครับ ก็รู้สึกอบอุ่นในเวลาที่ผ่านมา”

แล้วมีแอคซิเดนเกิดขึ้นยังไง มีจดหมายร่อนออกมาก่อนกำหนด?

“พูดอย่างนั้นก็ได้ ก็ใช่ครับ เพราะว่าอย่างที่บอกว่าเราได้ไปคุยกับช่องแล้วก่อนหน้านี้ อาจจะขออนุญาตออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งเราจะหมดสัญญาเดือนพฤศจิกายน เราก็เลยเหมือนว่ามีการคิดวางแผนคุยกับผู้จัดการฯ ว่า ออกจากที่นี่ไปเราจะวางเส้นทางของเรายังไง ซึ่งมันก็ประจวบเหมาะกับมีรายการติดต่อมาให้ไปออก”

คิดไหมว่าการไปออกรายการจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้?

“ไม่คิดครับ เพราะว่าที่จริงทางฝั่งเราคือผู้จัดการก็ได้บอกกับทางรายการไว้แล้วว่า ก็เล่าสถานการณ์ว่าจริงๆ แล้วคือยังไม่หมดสัญญานะ แต่ว่าจะหมดในเดือนพฤศจิกายนช่วงต้นเดือน ซึ่งก็ต้องแจ้งให้เขารู้ ให้เขาทราบแต่แรกเลยว่า ถ้าเกิดว่าถ้าจะออนแอร์ยังไงก็ต้องเป็นหลังหมดสัญญา เพราะเราไม่เคยอยากจะมีปัญหากับใคร ไม่ได้อยากจะมีมีราวอะไรอยู่แล้ว ซึ่งก็รับทราบตรงกัน”

แสดงว่าเราแจ้งกับทางรายการไปแล้ว แต่อาจจะเป็นความเข้าใจผิด?

“ก็อาจจะเป็นไปได้ ซึ่งมันกลายเป็นว่าออนช่วงที่ผ่านมา ก็ตกใจ เพราะว่าวันนั้นเป็นวันที่ผมมีเดินสายไปโปรโมทซิงเกิลของวง roof top ด้วย ซึ่งก็ตอนช่วงเวลานั้น ใกล้ๆ ทุ่มสองทุ่มก็ไปอยู่ที่คลื่นวิทยุ เดินสายอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาก เห็นแค่แบบมีคนแท็กมาในโซเชียล ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราเข้าใจว่าโอเคมันต้องออนหลังพฤศจิกาอยู่แล้ว ช่วงกลางๆเป็นต้นไป แต่พอรู้จริงๆ ก็ตกใจ”

ได้เคลียร์หรือติดใจกับฝั่งรายการไหม?

“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรไม่ดีกับฝ่ายไหนเลยเรื่องนี้ อย่างที่บอกส่วนนึงเราก็ต้องขอโทษทางช่อง7 ด้วย เพราะว่ายังไงก็ตามยังอยู่ในสัญญา มันยังเหลือเวลาอยู่ไม่ว่าจะมากจะน้อยยังไง ภาพที่ออกไปมันก็ทำให้ทางช่องเขาก็ต้องออกมาทำอะไรสักอย่าง เราก็เข้าใจ”

เราได้มีการท้วงติงทางรายการไหม ทำไมออกอากาศก่อน?

“ทางผู้จัดการฯ ก็มีถามไปว่าทำไมเหมือนเราคุยกันไว้อีกแบบหรือเปล่า ซึ่งเขาก็เคลียร์มา เท่าที่ผมได้ยินจากผู้จัดการฯ เขาก็บอกว่ามันเป็นความผิดพลาด ทางเขาก็ขอโทษมา”

ก่อนออนแอร์ไม่ได้สื่อสารบอกก่อน?

“เขาบอกก่อนออนไม่นานเท่าไหร่ อย่างที่บอกวันนั้นผมเดินสายโปรโมทเพลงด้วย ก็เลยออกมาแนวกะทันหันนิดนึง”

น้อยใจไหมที่ต้นสังกัดออกจดหมายมาแบบนั้น?

“ไม่นะครับ ผมเข้าใจทุกๆ ฝ่ายว่าทางช่อง7 ด้วยความที่เขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่อย่างนั้นนักแสดงคนอื่นๆ ก็จะเกิดคำถามขึ้นมาได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่ไม่ดีกับทางช่อง7 เลย อย่างแรกเลยรู้สึกขอบคุณและรู้สึกดีกับเวลาที่ผ่านมาด้วยซ้ำครับ”

ตอนนั้นเราได้บอกกับทางช่องไหมว่าจะไปออกรายการ?

“ไม่ได้บอกก่อนครับ แต่ที่บอกก่อนหน้านี้คืออาจจะไม่ได้ต่อสัญญา”

เราวางแผนในอนาคตเอาไว้แล้วใช่ไหม?

“ก็มีคุยกับผู้จัดการว่าจะไปทำอะไรบ้างดีหลังจากนี้ หลังจากที่หมดสัญญาไปจริงๆ”

ได้ไปอธิบายกับทางช่องหรือยัง?

“มีครับ ก็มีโอกาสได้อธิบาย ได้พูดคุยประมาณนึง ผมก็เชื่อลึกๆ ในใจว่าความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้เป็นไปทางลบมากขนาดนั้น”

ปัจจุบันเราก็ไม่ได้ติดใจใคร และอีกสองฝั่งก็ไม่ได้ติดใจกันใช่ไหม?

“ใช่ ไม่ได้ติดใจอะไรใครครับ ผมเข้าใจว่าทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คนเขาก็มีเหตุผลในการกระทำทุกๆ อย่าง เราก็เป็นคนที่อยู่ตรงกลางของเรื่องทั้งหมด ฉะนั้นพอมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเราก็เข้าใจได้ จริงๆ ถ้าให้ผมมองในแง่ดีในเรื่องนี้ กลายเป็นว่าผมได้เห็นว่ามีแฟนๆ มีคนที่เขาซัพพอร์ตเรา มีคนที่เขาเป็นห่วงเราอยู่มากพอสมควรเหมือนกัน มันก็เป็นแง่ดีในมุมนึงของเรื่องนี้”

ขอบคุณข้อมูล:NineEntertain