เป็น 2 เพื่อนซี้ที่สนิทสนมกันมากๆเลยทีเดียวเวลามีปัญหาอะไรก็จะคอยช่วยเหลือกันอยู่ตลอด สำหรับ เสนาหอย และ วิลลี่ แมคอินทอช ซึ่งปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังคงทำธุรกิจอยู่ด้วยกัน และยังมีผลงานในวงการบันเทิงออกมาให้ได้เห็นต่อเนื่องส่วนใหญ่ในบทบาทของการเป็น พิธีกร เก่งทั้งคู่เลยทีเดียวคะ
ล่าสุด เสนาหอย ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตรายการ โต๊ะแชร์มหาชน ที่มี นีโน่ เมทนี และ วิลลี่ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ก็ถูกถามว่าเคยทำธุรกิจแล้วเจ๊งหรือไม่ เสนาหอย ก็เล่าให้ฟังว่า ไม่รู้ว่าความเจ๊งคืออะไร แต่ทำมาตั้งนานไม่ได้เงินเลยแบบนี้ถือว่าเจ๊งหรือไม่
ในขณะที่ ดีเจนุ้ย แขกรับเชิญอีกคน ก็ได้พูดขึ้นว่า เมื่อก่อนบริษัทพี่มีเพื่อนรักอีกคนไม่ใช่เหรอ ถ้าจะเล่าเรื่องแบบนี้ก็ควรมานั่งเล่าให้ครบกันทั้ง 3 คน ซึ่ง เสนาหอย ยืนยันว่าพูดถึงได้ไม่มีปัญหา
จากนั้นก็เล่าต่อว่า เมื่อก่อนไม่มีใครไม่รู้จักบริษัท ลักษ์ 666 เมื่อก่อนเรามีกันอยู่ 3 คน เปิ้ล นาคร วิลลี่ เสนาหอย ตอนนั้นทำรายการ สาระแนโชว์ ช่อง 3 เราสัญญากัน 3 คนว่า รายการนี้จะต้องขึ้น Top 5 ภายใน 3 เดือน
แต่เปิดตัวอาทิตย์แรกก็ติดอันดับเลย หลังจากนั้นก็ไปทำหนังสือต่อ เป็นพวกนิตรสารดารา ทำภาพยนตร์ เปิดช่องวิทยุ ทำทุกอย่างมาหมดแล้ว เมื่อก่อนเรามีพนักงานทั้งหมด 260 คน
เวลาจัดเลี้ยงปีใหม่ลงทุนปิดทั้งเกาะ เดือนหนึ่งทำกำไรประมาณ 1.8 ล้านบาท แต่ไม่น่าเชื่อว่าไม่ถึง 3 เดือน กลับเป็นหนี้ 10 กว่าล้านบาท ชีวิตของผมพังภายในไม่ถึงปี
เมื่อมีทีวีดิจิทัลเข้ามาตอนนั้นเราตัดสินใจปิดบริษัททันที เสนาหอย โทรหา วิลลี่ บอกว่าเราคงต้องปิดไปก่อนหลังจากปิดบริษัทได้ก็มาเช็กทรัพย์สินกัน
ตอนนั้น วิลลี่ เดินมาบอกว่ามีข่าวดีเราปิดบริษัทได้แล้วแต่มีข่าวร้ายเยอะมาก เสนาหอย ก็บอกเพื่อนว่าพูดมาเลยรับได้ แล้ววิลลี่ก็บอกว่าเราสองคนเป็นหนี้อยู่ 106 ล้านบาท แทบเป็นลมเลย
จากนั้นคุยกับวิลลี่ว่าเราจะเอาอย่างไรดีหรือเราทำง่ายๆคือปล่อยล้มละลายไปเลย ตอนนั้นวิลลี่บอกว่าแล้วคนที่เราเป็นลูกหนี้เขาล่ะ คนที่เขารอเงินจากเราจะทำอย่างไรสรุปเราเลยรับภาระหนี้กันคนละครึ่ง
ขอบคุณข้อมูล : TV Thunder
