แอน จักรพงษ์ ฟาดกลับเจ็บจี๊ด หลังโพสต์ภาพครอบครัว โดนต่อว่าแรง

บันเทิง

ต้องบอกเลยว่าช่วงนี้เธอเจอแต่กระแสดราม่า สำหรับ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ก่อนหน้านี้เจ้าตัวโดนชาวเน็ตรายหนึ่งได้เข้ามาต่อว่าแรงๆหลังจากที่โพสต์ภาพครอบครัวไปเที่ยวทะเล งานนี้แม่จะไม่ทนฟาดกลับเจ็บจี๊ด 10 ข้อเน้นๆ

1.) แอน จักรพงษ์ สะกดแบบนี้ให้ถูกก่อนนะคะ

2.) เราไม่เคยรู้จักกัน เหตุไฉนถึงเรียกคนที่คุณไม่เคยเจอส่วนตัวเลยด้วยซ้ำว่า อีกะเทยบัวใต้น้ำ… ซึ่งถ้าดูจากโปรไฟล์คุณแล้ว ถ้าเป็นผู้ชายจริง ก็ควรต้องมีมารยาท สุภาพบุรุษไม่เรียกผู้หญิงหรือสตรีข้ามเพศว่า xี หรือแทนตัวพวกเขาว่ากะเทย เพราะมันส่อสันดานความหยาบช้าค่ะ ถ้าคุณเข้าใจคำว่า บัวใต้น้ำ จริง…สิ่งที่คุณทำอยู่มันคือการเป็นคนประเภท บัวใต้ดิน ซึ่งหมายถึงความต่ำสุดในพื้นปฐพีค่ะ

3.) ใครปล่อยลูกน้องเป็นโควิดค่ะ? ใครเค้าอยากจะเป็นกัน?! เอาข้อมูลมาจากไหน?! มโนเอง สรุปเองอีกแล้ว! หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี (Smear Campaign) ไปเรื่อยมีความสุขหรือคะ? 😔 มีแต่เขาตรวจพบ แล้วก็รีบให้พักงานเพราะด้วยความไม่ระวังของเจ้าตัวที่อาจติดจากสมาชิกคนในบ้าน พอเรารู้ก็ให้ทุกคนทั้งบริษัทไปตรวจทันทีและกักตัวคนที่มีความเสี่ยงใกล้คนๆ นั้นเป็นเวลา 14 วัน

นอกเหนือจากนี้ทางบริษัทก็ยังจ่ายค่าวัคซีนให้พนักงานทุกคนซึ่งตอนนี้ทุกคนก็ได้คนละ 1-2 เข็มแล้วตามลำดับที่ได้จองไปเรียบร้อย…คุณอ่านข่าวแค่ไม่กี่บรรทัดว่ามีพิธีกรคนนึงติดหลังจากนั้นคุณก็เต้าข่าวให้ใหญ่โตเกินจริงเพื่อจ้องทำลายชีวิตคนอื่น (Cancel Culture)…ไวรัสที่น่ากลัวกว่าโควิดก็คือไวรัสที่ ‘เห็นใครดีกว่าตนไม่ได้’ …ไวรัสแห่งความริษยา…ไวรัสของจิตที่ป่วยในตัวคุณต่างหาก (มีต่อหน้า 2 กับการโพสต์ถัดไป)

4) ถ้าคุณคิดว่าเขาเป็นแหล่งแพร่โควิดจริงก็กรุณาเปิดจอทีวีดูว่าเค้าจะผลิตรายการสดทุกวันๆละ 7 ชั่วโมงได้อย่างไร?! หรือที่บ้านคุณไม่มีทีวี…มีแต่มือถือเอาไว้สร้างข่าวใส่ร้ายคนอื่น?! ถ้าไม่มีมาตรการที่เข้มงวด เค้าจะนั่งทำงานกันแบบนี้ได้อย่างไร?! ควรต้องชื่นชมทางบริษัทดิฉันด้วยซ้ำ

ว่ามีนโยบายเอาจริงชนิดสั่งให้คนพักงานทันทีและจ่ายให้พนักงานทุกคนรวมหลักล้านบาทเพื่อได้รับวัคซีนทันทีและที่สำคัญเราก็ได้มีการประกาศไปแล้วทางสื่อว่า เกิดอะไรขึ้น…ไม่ทราบว่าคุณไปอยู่ในรูไหนมา?! จึงไม่เห็นว่าเค้าก็ได้มีการแถลงไปตั้งนานแล้ว…คุณแค่อยากจะหาเรื่อง…อย่าทำตัวกระจอกเลยค่ะ…

ถ้าคิดว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงก็รวบรวมหลักฐานแล้วไปฟ้องที่สถานีตำรวจสิคะ….บริษัทดิฉันอยู่ที่แบริ่ง…อยากเจอตัวคุณและพวกเหมือนกันจะได้สั่งฟ้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาเพราะปกติคนอย่างพวกคุณก็เก่งแต่ปาก…พอเวลาให้มาเคลียร์ก็หายตัวหมดทุกคน….ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นเรื่องจริง ก็เชิญได้เลยค่ะ…ดิฉันก็อยากเจอพวกคุณค่ะ…

เป็นผู้ชายที่เรียกคนอื่นว่ากะเทยและใช้สรรพนามแทนผู้หญิงว่า xี แต่พอเวลาให้โชว์ตัว…ผู้ชายอย่างคุณกลับไม่มา…หลบหน้าหายหนีอยู่ในรู…ขอแนะนำว่าคุณควรใช้คำสรรพนามกับตัวเองว่า ‘xีโคตรกะเทยใต้ดิน’ ค่ะ (มีอ่านต่อหน้า 3 ซึ่งเป็นโพสต์ถัดไป)

5) ไม่เคยปิดคอมเม้นต์ในเพจตัวเองค่ะและแถมยังตอบเองด้วยอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ ดิฉันเป็นคนกล้าเผชิญหน้าค่ะ ไม่ต้องห่วง แล้วตอนนี้ก็อยากเจอคุณมากด้วย

6) โครงการแจกอาหาร 1,000,000 กล่องโดย แอน จักรพงษ์ ก็ทำเสร็จไปแล้วนี่คะ…ไม่ได้ดูข่าวเหรอคะว่าแจกกันทุกวัน ทำงานหนักกันทุกวัน และก็จบไปแล้วพร้อมคำขอบคุณจากทุกโรงพยาบาลและมูลนิธิ…คุณมันเป็นคนแย่มาก…มือไม่พายยังเอาตีนราน้ำ 😩 ไม่ช่วยสร้างสรรค์ส่งเสริมหรือขอบคุณคนที่เค้าทำให้กับสังคม ซึ่งใช้เงินหลายสิบล้าน…ยังกลับมาเย้ยหยันถามกลับว่าไปถึงไหนแล้ว?! 😡

ไปถามคุณพ่อคุณแม่คุณว่าสอนคุณมายังไงดีกว่าค่ะ?! 😔…ทั้งๆที่โครงการนี้ก็ออกข่าวออกทีวีทุกวัน คนที่เขาทำงานกันทุกคนจะเสียความรู้สึกขนาดไหนกับคนบัวใต้ดินอย่างคุณ?! อาหารซักกล่อง ได้เคยทำช่วยเหลือบ้างหรือเปล่าคะ?! พอตอนนี้ได้รู้ความจริงมีคำว่า ‘ขอบคุณ’ สักคำมั๊ยคะ?! จิตสำนึกไม่มีแล้วยังบังอาจหน้าด้านถามคนอื่นอีก??! (มีให้อ่านต่อหน้า 4 ซึ่งเป็นโพสต์ถัดไป) 

7) บอกให้ดิฉันหยุดใช้ Facebook ของดิฉันที่มีคนตามกว่า 12 ล้านคนทำไม?ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกัน?! มีเหตุผลอะไร?! อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีอะไรเกี่ยวเนื่อง… แบบนี้ได้ด้วยหรือ?! ถ้าอยากจะหยุดดิฉันจริงๆก็ไปคุยกับ Mark Zuckerberg แล้วกันค่ะ 😎

8 ) บอกดิฉันไปเที่ยวสนุกที่หัวหิน??!! แล้วมันหนักอะไรในหัวคุณหรือคะ? ที่ดิฉันไปเที่ยวกับสามีและลูก….ก็ไม่เข้าใจอีกเหมือนกันในเมื่อเราก็ไม่มีโควิด…ไม่งั้นรีสอร์ทก็คงไม่เปิดรับหากไม่มีผลตรวจ… แล้วใครจะเอาลูกไปเสี่ยงเที่ยวหากไม่ปลอดภัย?! บอกแล้วว่าไวรัสโควิดไม่น่ากลัวเท่ากับไวรัสริษยาของตัวคุณ

9) สรุปตกลงจะเขียนมาหาพระแสงอะไรคะ??! 🥱 ไปทำมาหากินเถอะค่ะ….คิดบวกคิดสร้างสรรค์แล้วชีวิตคุณก็จะบวกขึ้นเอง…อย่าเฝ้าแต่ริษยาคนอื่นหรือเล่นละครสร้างความสนใจเพราะหิวแสง ตลอดจนสร้างความเกลียดชังในสังคมด้วยการใส่ร้ายป้ายสี…

บาปบุญมีจริงนะคะ…การมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นทุกครั้งล้วนแล้วต้องอยู่บนพื้นฐานของคำว่า ‘เหมาะสม’ ทุกการกระทำล้วนต้องอยู่บนพื้นฐานของคำว่า ‘รับผิดชอบ’ …เงินทุกบาทของค่าปรับหรือการถูกจำคุก ล้วนแล้วมีกฎหมายระบุเช่นกัน

10) มีสติยังไม่พอ ยุคปัจจุบันต้องมีสตางค์เตรียมไว้ด้วย ก่อนที่จะโจมตีผู้อื่นทางวาจา อย่าได้แต่อ้างว่านี่คือสังคมประชาธิปไตย เพราะสำหรับคุณมันคือ อัตตาธิปไตย… มันคือข้ออ้างสำหรับคนหยาบช้าจอมปลอม (Crooks) ที่ต้องการจะหาผลประโยชน์จากคนลำบากของสังคมให้เชื่อคุณในช่วงตกต่ำของการเมือง และชอบใช้จังหวะที่มีช่องว่างของคนจนและคนรวย

ในการสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นมากที่สุด กับคนที่คุณอยากจะโจมตี…พอเถอะค่ะ!!! การตลาดแบบนี้มันคือการตอกฝาโลงตัวเอง…ในที่สุดทุกคนมองออกว่าอะไรคืออะไร…อยู่กันด้วยเหตุผล…ใช้ชีวิตแบบปัญญาชนเพื่อลูกหลานของเรานะคะ

ขอบคุณข้อมูล : annejkn.official