ต้องบอกเลยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยตอนนี้ยังคงน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ที่วิกฤตไปกว่านั้นคือเตียงในโรงพยาบาลหลายๆพื้นที่เต็มหมด
ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุธ (รมว.สธ.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า
“จะต้องไม่ปล่อยให้คนไทยตายเป็นใบไม้ร่วง และต้องจมกับกองทุกข์ ทั้งโรคระบาด และเศรษฐกิจที่หายนะอีกต่อไป” พรรคไทยสร้างไทย จึงได้เสนอพิมพ์เขียว เพื่อให้รัฐบาลเร่งปรับแผนวัคซีน
โดยต้องสั่ง mRNA อย่างน้อย 100 ล้านโดส มาเป็นวัคซีนหลักคู่กับ AstraZeneca พร้อมฉีดให้ได้วันละ500,000 โดส เพื่อให้ประชาชน 50 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้
เพื่อเปิดเมือง เปิดประเทศ เปิดการทำมาค้าขาย เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย และที่สำคัญคือทำให้เกิด “ภูมิคุ้มกันหมู่” ได้จริง ได้เร็ว ถ้าทำตามพิมพ์เขียวที่พรรค ไทยสร้างไทยได้เสนอไปแล้ว
คนไทยอย่างน้อย 50 ล้านคน จะได้ฉีดวัคซีน 1 เข็ม ได้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ และครบ 2 เข็ม ในเดือนมกราคม 65 แต่ถ้ารัฐบาลไม่ปรับแผนการสั่ง และฉีดวัคซีน กว่าจะฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
จะต้องใช้เวลายาวนานไปถึงกรกฎาคมปีหน้า โดยได้นำอัตราการฉีดจริง ตั้งแต่ต้นมาถึงปัจจุบัน เราฉีดเฉลี่ยได้วันละ 244,400 โดส/วัน มาคำนวณ (ตามตาราง ซึ่งต้องขอบคุณ คุณเจษฎา ทักษิณ ผู้จัดทำตารางการคำนวณ)
ซึ่งหากรัฐบาลไม่ยอมปรับแผนการฉีด “ประเทศไทยจมกับการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่ๆ ระลอกแล้วระลอกเล่า และประชาชนคนไทยจะต้องทุกข์ทรมานไปอีกนาน”
พรรคไทยสร้างไทย จึงได้เสนอพิมพ์เขียว เพื่อเร่งพาพี่น้องชาวไทยออกจากมหาวิกฤตินี้ ทำให้คนไทยได้ใช้ชีวิตอยู่กับโควิดอย่างปลอดภัย อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ
ที่หลังจากฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว อัตราการติดเชื้อลดลง ผู้ป่วยหนักน้อยลง คนเสียชีวิตน้อยลง ทำให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตปกติสุข แบบ New Normal สามารถเปิดการค้ากลับทำมาหากินกันได้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์#พรรคไทยสร้างไทย
ขอบคุณข้อมูล:คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan
